Google
 

10 พฤษภาคม 2553

เซี่ยงไฮ้...แค่ปลายจมูก (2) ทะเลสาปซีหู...ตำนานนางพญางูขาว

เมื่อถึงเวลารุ่ง สาง...เราก็ต้องทำตามสูตร 6-7-8 คือ กระโดดเข้าห้องน้ำตอน 6 โมงเช้า รับประทานอาหารเช้า 7 โมงและวิ่งขึ้นรถพร้อมที่จะเดินทางใน เวลา 8 โมง ตอน 7 กับ 8 น่ะใช้เวลาไม่นานหรอกค่ะ แต่ตอน 6 นี่สิ ต้องขอเวลานานนิดนึง...ก็เมื่อคืนดิชั้นไม่ได้อาบน้ำ นี่คะ เลยต้องใช้เวลาทำตัวให้หอมๆกว่าปกติ ...กลัวคนอื่นเค้าจะเหม็นเอาน๊า...

เราคงจะใช้เวลา เดินทางกันราวๆ 2 ชั่วโมงกระมังคะ... คุณสมหวัง ไกด์จีนผู้น่ารักก็เริ่มอรรถาธิบายเรื่องราวของเมืองหางโจวกันให้ ฟังมากมายเลยค่ะ จำได้ว่า...หางโจวเป็นเมืองที่ตั้งอยู่ทางตอน เหนือของมณฑลเจ้อเจียง ทางตะวันออกของจีน พื้นที่ส่วนใหญ่ถูกล้อมรอบด้วยเทือก เขา มีทะเลสาบ ซีหู เป็นสัญลักษณ์ของเมืองตั้งอยู่ใจกลางเมือง

ใน ปี ค.ศ. 1230 มาร์โค โปโล นักเดินทางที่มีชื่อเสียงชาวอิตาเลี่ยนได้เดินทางมาถึงเมืองหาง โจว และได้กล่าวถึงเมืองนี้ว่าเป็นเมืองที่งดงามที่สุดในโลกและ กล่าวชื่นชมทะเลสาบ ซีหู ว่า ตัวอยู่ซีหู...เหมือนนั่งอยู่ในสวรรค์ นอกทะเลสาบซีหูมีชื่อเสียงใน ด้านความงดงามแล้ว หางโจวยังมีใบชา จิ่ง หลง และผ้าไหมเป็นสินค้าส่งออกที่มีชื่อเสียง โด่งดังไปทั่วโลกด้วยเช่นกัน

พอเริ่มเข้าเขตหางโจว...เราก็จะเริ่มเห็นบ้านเรือนของ เกษตรกรตั้งเรียงรายอยู่สองข้างทาง ที่จริงแล้ว...คุณสม หวังแกใช้คำว่า บ้านชาวนา ค่ะ คำ ว่า บ้านชาวนา กับภาพที่เห็นมันทำให้เราอึ้งไปชั่วขณะ ถึงแม้ว่าคุณสมหวังแกจะบอกว่า ในหนึ่งตึกนั้น จะแบ่งเป็นชั้นๆ เป็นห้องๆ เหมือนกับแฟลต หรืออพาร์ทเม้นท์ มี สิ่งที่ช่วยอำนวยความสะดวกสบายกันพอสมควร

เวลาเช้าก็ไปทำไร่ทำนา ถึงเวลาเย็นก็กลับบ้านพร้อมกัน บ้านชาวนาของที่นี่ช่างขัดแย้งกับภาพบ้านชาวนาที่เราคุ้นชินกัน มาแต่เล็กจริงๆ ที่เห็นได้ชัดเจนคือสถานภาพและความเป็น อยู่ระหว่างชาวนา 2 ประเทศ การสนับสนุนและการดูแลจากภาครัฐของ เรายังไปไม่ถึงกลุ่มคนที่เราเรียกว่า กระดูกสันหลังของชาติ จริงๆ

--------------------------------------------------------------------------------------------------

ห้างสรรพสินค้าเล็กๆใน เมืองหางโจวค่ะ

ในหางโจวเต็มไปด้วยคอนโดเพื่อการพัก อาศัยมากมายเลยค่ะ ...ดูเป็นระเบียบเรียบร้อย สวยงามดีมาก ซึ่งคอนโดเหล่านี้จะไม่สูงมากนะคะ เพราะทางการเกรงว่าตึกสูงจะบดบังทิวทัศน์ ที่สวยงามโดยรอบของเมืองเสียหมด

ที่หางโจวมีทะเลสาบใหญ่อันสวยงาม และเป็นสัญลักษณ์ของเมืองชื่อว่า ทะเลสาบซีหู (West Lake)มีบทกวีจีนบท หนึ่งเขียนไว้ว่า "หากบนฟากฟ้ามีสรวงสวรรค์ บนผืนดินก็มี ซู -หาง (ซู คือ เมืองซูโจว หาง คือ เมืองหางโจว) นักท่องเที่ยวที่มาเยือนหางโจว มักไม่พลาดที่จะมาล่องเรือชมความงามของทะเสาบแห่งนี้

เราไปล่องเรือ...ชมความงามของทะเลสาบซี หูด้วยกันนะคะ...

เรือมังกรลำนี้...ใช้ในราชการสำหรับงาน บ้านงานเมืองเท่านั้นค่ะ

ประชาชนอย่างเรา...ลงลำนี้ค่ะ

ท่าเรือที่เห็นเมื่อสักครู่...อยู่ไกล ลิบๆ

ภาพทิวทัศน์ที่งดงามราวกับภาพวาด...

นี่คือ...เจดีย์ที่ว่ากันว่าเป็นทีคุม ขังนางพญางูขาวค่ะ

---------------------------------------------------------------------------------------------------

เมื่อพูดถึงทะเลสาบซีหู...ผู้คนก็จะนึกถึงเทพนิยาย นางพญางูขาว ตำนานรักรันทดระหว่างคนกับงูที่อยู่คู่ทะเลสาบแห่งนี้มานานหลาย ชั่วอายุคน...เล่ากันว่า มีนางงูขาวตัวหนึ่ง บำเพ็ญตบะมานานนับพันปี จนวิชาอาคมแก่กล้า สามารถแปลงกายเป็นคนได้ นางได้แปลงร่างเป็นสาวงามชื่อ ไป๋เหนียงจื่อส่วนนางงูเขียวอีกตัว หนึ่งแปลงร่างเป็น เสี่ยวชิง สาวน้อยน่ารัก ผู้มีชีวิตชีวา

สาวงามทั้งสองได้ท่องเที่ยวไปใน ทะเลสาบซีหู นางงูขาวได้พบกับบัณฑิตหนุ่มผู้หนึ่ง นางก็เกิดหลงรักขึ้นมาทันที นางงูเขียวจึงร่ายเวทมนตร์ให้ฝน ตก บัณฑิตหนุ่งเกรงว่าสาวงามทั้งสองจะเปียกปอนจึงเอาร่มไปให้ เมื่อ ได้อยู่ใกล้ชิดกัน บัณฑิตหนุ่มก็หลงใหลในความงามของนางงูขาว จากนั้น...ทั้งสองก็ใช้ชีวิตอยู่ร่วมกันในบริเวณทะเลสาบซีหูแห่งนั้น

แต่รักแท้...ย่อม ต้องฟันฝ่าอุปสรรค เมื่อเจ้าอาวาสวัดจินซานได้ล่วง รู้ว่านางงูขาวเป็นปีศาจ จึงไม่อาจยอมรับให้อยู่ร่วมกับมนุษย์ได้ จึงไปบอกบัณฑิตหนุ่มว่าภรรยาของเขาเป็นงู บัณฑิตหนุ่ม ไม่เชื่อจึงต้องการจะพิสูจน์ข้อกล่าวหาของเจ้าอาวาส

เมื่อถึงเทศกาลสารทจีน ชาวบ้านจะดื่มเหล้าชนิดหนึ่งเพื่อขจัดเภทภัยและสิ่งอัปมงคล บัณฑิตหนุ่มได้นำเหล้านั้นไปให้ภรรยาของตนดื่ม นางงูขาว มิอาจปฏิเสธได้...เมื่อดื่มหล้าแล้วร่างของนางจึงกลายเป็นงูทันที บัณฑิตหนุ่มตกใจจนสิ้นลมเมื่อรู้ว่าภรรยาของตนไม่ใช่ มนุษย์

เพื่อช่วยชีวิตสามีของตน... นางงูขาวจึงต้องเดินทางไกลนับพันลี้ โดยมิได้คำนึงว่านางกำลังตั้งครรภ์ นางต้องการไปขโมยหญ้าหลินจือที่สามารถชุบชีวิตสามีของนางได้ นางต้องต่อสู้กับทหารยามที่พิทักษ์รักษาหญ้าหลินจือ ทหาร ยามรู้สึกชื่นชมในความรักที่นางมีต่อสามีมากจึงมอบหญ้าหลินจือให้ นางไป เมื่อบัณฑิตหนุ่มฟื้นขึ้นมา...จึงได้ตระหนักว่านางงูขาวรักตน มากเพียงใด

แต่อุปสรรคมิได้จบลงเพียงแค่นั้น... เจ้าอาวาสยืนกรานมิยินยอมให้นางงูขาวอยู่ร่วมกับมนุษย์ จึง ลวงบัณฑิตหนุ่มเข้าไปในวัด นางงูขาวโกรธมากจึงนำสัตว์ น้ำเข้าโจมตีวัดจินซาน ร่ายเวทมนตร์ให้น้ำท่วมวัดและช่วยสามีออก มา เจ้าอาวาสได้แสดงพลังต่อสู้อย่างแรงกล้า นาง งูขาวครรภ์แก่ใกล้คลอดสู้เจ้าอาวาสไม่ไหว จึงหลบหนีไปคลอดลูกชายอย่างน่าเวทนา เจ้าอาวาสตามไปจับ นางไปคุมขังไว้ใต้เจดีย์ เหลยเฟิง ในบริเวณทะเลสาบซีหูอย่างไร้ความปรานี และยังสาปไว้ว่า นอกจากน้ำทะเลสาบซีหูจะแห้งหมดและเจดีย์ล้มลงแล้วเท่านั้น นางจึงจะออกมาได้
หลายปีต่อมา...นางงูเขียวได้บำเพ็ญตบะจนแก่กล้าจึงกลับมา ทะเลสาบซีหูอีกครั้งและต่อสู้กับเจ้าอาวาสฝ่าไห่จนชนะ ได้สูบน้ำทะเลสาบซีหูจนเหือดแห้งและล้มเจดีย์เหลยเฟิงลง จึงช่วยนางงูขาวออกมาจากเจดีย์ที่คุมขังได้

เรื่อง เศร้าของความรัก...ที่มีทั้งพบและพลัดพรากระหว่างคนกับงู เป็นเรื่องราวที่สร้างความประทับใจให้กับผู้มาเยือนทะเลสาบซีหูจน ถึงทุกวันนี้ค่ะ

--------------------------------------------------------------------------------------------------

พอขึ้นจากเรือแล้ว...ก็คุยกันว่าจะ เดินไปวัดจี้กงที่อยู่ตรงข้ามทะเลสาบซีหูค่ะ เผอิญว่ามีแม่ค้าคนสวยมาขายมาร้องขายผ้าเช็ดหน้าปักรูปดอกไม้ต่างๆ ที่สำคัญคือเป็นงานปักด้วยมือค่ะ สีผ้าซ้วยสวย...ก็เลยขอคุณไกด์ไทย ว่าขอซื้อผ้าเช็ดหน้าแป็บ นึง ตอนแรกคุณแม่ค้าบอกว่าผืนละ 100 แต่ มีคนบอกว่าถ้าจะซื้อของเมืองจีนต้องต่อให้ได้ 70%

อู๊ยยย...เกรงใจค่ะ ต่อไม่เป็นหรอก อ่ะ...ลองเล่นๆ 50% ละกัน...ไม่ให้ก็ไม่ว่า คุณ แม่ค้าก็ไม่ยอมค่ะบอกว่าผืนละ 100 อ่ะ...ถ้า งั้นไม่ได้ก็ไม่เอา คุณไกด์ไทยแกก็เร่งยิกๆอยู่ด้วย ไป ล่ะ...ไม่เอาแล้ว แต่พอจะก้าวขาเดินออกไป คุณแม่ค้าคนสวยก็บอกว่า เดี๋ยวๆ โอเคก็ได้ 2 ผืน 100 แต่แหม...เกรงใจลูกทัวร์คนอื่นเค้า ค่ะ...ต้องมารอเราคนเดียว ก็เลยบอกคุณแม่ค้าว่า...ขอโทษค่ะ ไม่เอาแล้วล่ะ ไม่มีเวลาแล้ว คุณแม่ค้าก็ตื๊อๆ ดึงไม้ดึงมือกันวุ่นวายไปหมด บอกว่า...เอาเถอะๆ เอาไป 5 ผืน 100 เลย

ฮ๊า!!! 5 ผืน 100 ได้ยินเพียงเท่านั้น...นกกระจาบก็แตกรังทันทีค่ะ ลูก ทัวร์อีก 4 สาวก็พุ่งเข้ามาในทันใด ถ้า 5 ผืน 100 เราก็จะซื้อกัน คนละ 20 ผืน 400 บาทค่ะ แต่แหม...ซื้อกันตั้งคนละ 20 ผืนก็ต้อง เลือกลายดอกไม้ไม่ให้มันซ้ำกันสิคะ คุณไกด์ขา...เดิน ไปก่อนเถอะค่ะ เดี๋ยวพวกเราเลือกผ้าเช็ดหน้ากันแป๊บเดียว...เดี๋ยวจะ ตามไปนะคะ

โอยยย...คุ้ยกันกระจายเลยค่ะ ไม่รู้ว่านานแค่ไหน พอจ่ายเงินเสร็จก็รีบวิ่งจี๋ตามคณะทัวร์ไปเลยค่ะ แต่หาเท่าไหร่ก็หาไม่เจอเบอร์คุณไกด์ไทยก็ไม่ได้เมมกันไว้เสียด้วย เดินย้อนกลับเข้าไปที่ทะเล สาบอีกรอบก็ไม่เจอ ใครไม่รู้...ฉล๊าดฉลาดค่ะ บอกว่าให้มองหาธงชาติไทยเล็กๆที่ไกด์เค้า มักจะถือเดินนำคณะทัวร์กัน แต่ช่วงเทศกาลแบบนี้นะคะ คนจีนก็มาเที่ยวทะเลสาบกันเป็นล้าน ทัวร์ไทยก็มากันเป็น ร้อยคณะ ตามไปดูธงไทยกี่ธงๆก็ไม่ใช่คณะของเราค่ะ

หลงทางหัวปักหัวปำเลยค่ะคราวนี้ ...จะเดินไปวัดจี้ กงก็กลัวว่าจะยิ่งหลงไปกันใหญ่ ดังนั้นสาวสวยทั้ง 5 ก็เลย ตัดสินใจว่าจะนั่งรอคุณไกด์ไทย ไกด์จีน เดินย้อนกลับมารับพวกเราค่ะ หวังว่าคุณไกด์ทั้ง 2 จะรู้ตัวนะคะ ว่าลูกทัวร์คนสวยพลัดหลงไป 5 คน กะ ว่าให้เห็นกันชัดๆ...ก็เลยนั่งรอกันบนฟุตบาท ริมถนนหน้าทางเข้าทะเลสาบกันเลย

สักพักคุณไกด์ไทยก็มาจริงๆด้วย...แถม มีบ่นปอดแปดเล็กน้อย อ่ะ...ยอมๆคุณไกด์เค้าหน่อย ไปค่ะไปวัดจี้กงกัน ไม่แน่ใจนะคะว่า วัดจี้กงนี้จะเป็นวัดเดียวกันกับวัดจินซานใน ตำนานนางพญางูขาวหรือไม่...เพราะไม่มีข้อมูลจากที่ใดอ้างอิงไว้ เลยค่ะ เอาว่า...เราไปไหว้พระกับให้สบายใจดีกว่านะคะ ...ประตูวัดจี้กงนี้ก็อยู่เยื้องๆกับทางเข้าทะเลสาปซีหูเท่านั้นเอง ค่ะ

พระจี้กงที่เป็นที่ชาวจีนในหางโจวและนัก ท่องเที่ยวมักจะแวะเวียนเข้ามาสักการะบูชาค่

ตอนต่อไป...จะพาไปเมืองจำลองของราชวงศ์ซ่งและ ชมกายกรรมกันนะคะ สวัสดี ค่ะ...

ไม่มีความคิดเห็น: