Google
 

16 ธันวาคม 2550

“นี่คือรถธงของเรา” คำกล่าวสั้นๆ ง่ายๆ ของ “ทาเคโอะ ฟูกูอิ” ประธานกรรมการบริหารและซีอีโอ ของฮอนด้า มอเตอร์ ที่แสดงถึงความสำคัญของ ฮอนด้า รุ่น “แอคคอร์ด” เจเนอเรชั่นล่าสุด ที่เปิดตัวในอเมริกาเป็นประเทศแรก
ก่อนที่จะเปิดตัวอย่างเป็นทางการในเมืองไทยเป็นประเทศที่ 2 (ก่อนญี่ปุ่นด้วย) ทางฮอนด้า ออโตโมบิล เชิญสื่อมวลชนไทย 22 ชีวิตรวมทั้ง “ผู้จัดการมอเตอริ่ง” บินลัดฟ้าไปทดลองขับ ฮอนด้า แอคคอร์ด ใหม่ กันถึงแดนปลาดิบ ณ ศูนย์วิจัยของฮอนด้า เมืองโตชิกิ
สำหรับ แอคคอร์ด ใหม่ ที่เราทดลองขับเป็นเวอร์ชั่นอเมริกา เนื่องจากในญี่ปุ่นแอคคอร์ดยังไม่เปิดตัว ฉะนั้นจึงต้องเก็บข้อมูลทุกอย่างเป็นความลับ แน่นอนว่าอาจจะมีสเปกบางอย่างแตกต่างจากรุ่นที่จำหน่ายในไทย ส่วนรถที่ฮอนด้าจัดให้ขับมี 2 รุ่นเครื่องยนต์คือ ขนาด 3.5 ลิตร และขนาด 2.4 ลิตร
สเปกของเครื่องยนต์ ขนาด 3.5 ลิตรวี6 SOHC i-VTEC เป็นเครื่องที่ได้รับการพัฒนาขึ้นใหม่ แรงที่สุดตั้งแต่ผลิตแอคคอร์ดออกจำหน่าย ให้กำลังสูงสุด 275 แรงม้าที่ 6,000 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 248 ปอนด์-ฟุต ที่ 5,000 รอบ/นาที ส่งกำลังด้วยเกียร์อัตโนมัติ 5 จังหวะ และมีระบบ VCM ช่วยประหยัดน้ำมันส่วนเครื่อง 2.4 ลิตรเป็นการนำเครื่องยนต์เก่ามาปรับปรุงใหม่กำลังสูงสุด 180 แรงม้า เพิ่มจากรุ่นเดิม 10 แรงม้าที่ 6,500 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 161 ปอนด์ ที่ 4,300 รอบ/นาที ส่งกำลังด้วยเกียร์อัตโนมัติ 5 จังหวะหรือเกียร์ธรรมดา 5 จังหวะ
ด้านแชสซีส์ของตัวรถมีการออกแบบใหม่เพื่อให้สอดคล้องกับระบบกันสะเทือนที่เปลี่ยนเป็นแบบ ดับเบิ้ล วิชโบน สำหรับช่วงล่างหน้าและด้านหลังแบบมัลติลิงค์ พร้อมขยายฐานล้อให้ยาวขึ้นประมาณ 5.1 ซม. ขยายความกว้างของล้อหน้าและหลังเพิ่มประมาณ 2.8 และ 2.5 ซม.ตามลำดับก็ไม่ทราบเหมือนกันว่าเป็นโชคดีหรือร้ายกันแน่ในวันทดสอบขับฝนตกตลอดทั้งวัน ทำให้ทีมงานฮอนด้าต้องจำกัดความเร็วในการขับขี่ไม่เกิน 120 กม./ชม.และห้ามขับแซงกันเด็ดขาด เพื่อความปลอดภัย โดยให้ขับเป็นจำนวน 2 รอบ สนามทดสอบ Proving Ground Tochigi ของฮอนด้า (ระยะทาง 4,043 เมตร) และมีสื่อมวลชนเข้าร่วมทดสอบประมาณ 40 คน (ไทย 22 คนที่เหลือเป็นต่างชาติ)
ความรู้สึกแรกของเราหลังได้สัมผัสกับแอคคอร์ดตัวเป็นๆ คือ รูปโฉมภายนอกดูใหญ่ขึ้นผิดหูผิดตา แต่ยังคงความโฉบเฉี่ยวสไตล์สปอร์ตไว้เหมือนเดิม และเมื่อเข้าไปนั่งภายในห้องโดยสาร กว้างขวางกว่าเดิม แม้จะเป็นพวงมาลัยซ้ายทำให้รู้สึกไม่ชินบ้างแต่ไม่ใช่ปัญหาครั้งแรกเราขับรุ่น 2.4 ลิตรก่อน รู้สึกประหม่าเล็กน้อยตอนออกตัว จากความไม่คุ้นเคยกับพวงมาลัยซ้ายและสภาพฝนตก เราวิ่งที่ความเร็วประมาณ 60-80 กม./ชม. ก่อนจะคิกดาวน์ทะยานสู่ความเร็ว 120 กม./ช.ม. แอคคอร์ดตอบสนองราบรื่นดี กดคันเร่งความเร็วมาทันใจเหมือนเดิม
สิ่งที่สัมผัสได้ชัดคือความรู้สึกของพวงมาลัยหนักแน่นขึ้นว่ารุ่นที่แล้ว ส่วนการเกาะถนนและสมรรถนะช่วงล่างบนสภาพพื้นผิวถนนเปียกจากน้ำฝนทำได้ประทับใจ ส่วนระยะและน้ำหนักของการเบรก-แตะแล้วไม่หัวทิ่ม เมื่อผ่าน 2 รอบเราก็ต้องสลับไปขับรุ่นอื่นๆ ตามคิวที่จองเอาไว้ อาทิ สตรีม เซสท์ ก่อนจะมาขับรุ่น เครื่องยนต์ 3.5 ลิตรอีกครั้งในช่วงท้าย สำหรับตัว 3.5 ลิตรเป็นเครื่องยนต์ใหม่ ซึ่งได้รับการติดตั้งเทคโนโลยีล่าสุดเพื่อการประหยัดเชื้อเพลิงจากฮอนด้า ระบบ VCM –Variable Cylinder Management หรือเรียกง่ายๆว่า กระบอกสูบแปรผัน โดยมีอีซียูเป็นผู้ควบคุมการทำงานทั้งหมดของระบบนี้
หลักการคือ เมื่อรถวิ่งด้วยความเร็วคงที่ (ประมาณ 40-90 กม./ชม.) ระบบจะตัดการทำงานของเครื่องยนต์ให้เหลือเพียง 3 สูบและหากเร่งความเร็วหรือขับขึ้นเนิน ระบบจะให้เครื่องยนต์ทำงานเพิ่มเป็น 4 สูบ หรือ 6 สูบ ก็ได้แล้วแต่การเหยียบคันเร่งช่วงนั้น (สังเกตตรงไฟสัญญาณอักษร ECO สีเขียว ติดขึ้นหมายถึงรถวิ่งด้วยอัตราการบริโภคเชื้อเพลิงประหยัดที่สุด)ซึ่งเมื่อเราได้ลองขับแว่บแรก ความแรงแตกต่างจากตัว 2.4 ลิตรอย่างสิ้นเชิง กดคันเร่งปั๊บ รอบเครื่องพุ่งปี๊ด ตัวรถทะยานไปอย่างรวดเร็ว สนองกิเลสของพวกเท้าหนักได้เป็นอย่างดี เราลองเหยียบถึง 160 กม./ชม. (แอบฝ่าฝืนคำสั่งของวิศวกรนิดหน่อย แต่ไม่แซงรถคันอื่นนะ) พบว่าพละกำลังยังเหลือเฟือน่าจะขับไปได้เกิน 200 กม./ชม. สบายๆ
ส่วนเสียงรบกวนโดยรวมรู้สึกว่า เงียบกว่ารุ่นเดิม ส่วนการจัดวางอุปกรณ์ภายในต่างๆ คงสไตล์ของฮอนด้าไว้ไม่เสื่อมคลาย เรียกว่าเห็นแว่บแรกและปิดโลโก้ก็รู้ว่าเป็นรถค่ายนี้ ส่วนความปลอดภัย ฮอนด้าใส่มาครบทั้งระบบ ป้องกันล้อล็อก(ABS), กระจายแรงเบรก(EDB), ถุงลมนิรภัยคู่หน้า และม่านถุงลม พร้อมระบบควบคุมการทรงตัว (VSA)
ชิมลางกันพอหอมปากหอมคอไม่พอฟันธง แต่อาจสรุปสั้นๆ ว่า ฮอนด้า แอคคอร์ด โฉมใหม่ ตัวถังกว้างและใหญ่ขึ้นอย่างเห็นได้ชัด ความแรงโดดเด่นในรุ่น 3.5 ลิตร ส่วน 2.4 ลิตรไม่ต่างจากเดิมนัก สมรรถนะโดยรวมเราว่า แจ๋วกว่าเดิม ส่วนจะตรงใจผู้บริโภคชาวไทยแค่ไหน คอยดูกันวันที่ 20 พ.ย. นี้ กับการเปิดตัวฮอนด้า แอคคอร์ด เวอร์ชั่นไทยอย่างเป็นทางการ

ไม่มีความคิดเห็น: