บัว วัฒนาฯ” รีสอร์ตบ้านต้นไม้ ขายบรรยากาศใหม่พักผ่อนสวนผึ้ง

“บัววัฒนาฯ” รีสอร์ตบ้านต้นไม้ ขายบรรยากาศใหม่พักผ่อนสวนผึ้ง

บ้านต้นไม้ หลังแรกของรีสอร์ต จากกระแส ท่องเที่ยว อ.สวนผึ้ง จ.ราชบุรี ที่ได้ รับความนิยมมากขึ้นเรื่อยๆ ทำให้มีนักธุรกิจภายนอกเข้ามาลงทุน เปิดรีสอร์ตจำนวนมาก ดังนั้น ผู้ประกอบการเจ้าถิ่นจำเป็นต้องปรับตัว ให้สามารถแข่งขันได้ อย่าง “บัววัฒนารีสอร์ต” สร้างจุดเด่นนำเสนอบ้านพักสไตล์ บ้านต้นไม้ ภายในมีสิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน และค่าที่พักไม่สูงเกินไป ช่วยโปรยเสน่ห์เรียกนักท่องเที่ยวที่อยากมา พักผ่อนบรรยากาศแปลกใหม่ ใกล้ชิดธรรมชาติ โดยไม่ลำบากจนเกินไป เขมวิทย์ บัววัฒนา เจ้าของรีสอร์ต เขมวิทย์ บัววัฒนา หนุ่ม วัย 38 ปี เจ้าของกิจการ เล่าว่า เป็นคนสวนผึ้งโดยกำเนิด และมีที่ดินถือครองของครอบครัว อยู่ประมาณ 40 ไร่ จึงอยากทำรีสอร์ตเล็กๆ ของตัวเอง บ้านรังนกละเมอ เมื่อ เวลานั้น ราวปี พ.ศ. 2541 ในสวนผึ้งแทบไม่ได้รับความสนใจด้านการท่อง เที่ยวเลย ดังนั้น “บัววัฒนารีสอร์ต” ซึ่งลงทุนประมาณ 1 แสนบาท ทำเป็นบ้านไม้ไผ่ง่ายๆ 3 หลัง จึงเป็น 1 ใน 3 รายแรกที่บุกเบิกรีสอร์ตในท้องถิ่น ด้วยข้อดีระยะทางใกล้จากกรุงเทพฯ แค่ประมาณ 170 กิโลเมตร และธรรมชาติป่าเขาสมบูรณ์ อากาศเย็นสบายตลอดทั้งปี ดันกระแสท่องเที่ยวสวนผึ้งได้รับความนิยมมากขึ้นเรื่อยๆ บัววัฒนารีสอร์ตได้รับอานิสงส์ดังกล่าวเช่นกัน ช่วยให้ธุรกิจค่อยๆ เติบโตขึ้นโดยลำดับ จากบ้านไม้ไผ่ 3 หลัง ได้ปรับปรุงเป็นบ้านพักถาวร และเพิ่มจำนวนมากขึ้น บ้านต้นตอก่อรัก ยามราตรี อย่างไรก็ดี เมื่อการท่องเที่ยวบูม หนีไม่พ้นนักลงทุนนอกพื้นที่ทั้งรายใหญ่และย่อย แห่เข้ามาลงทุนเปิดรีสอร์ตใหม่ราวดอกเห็ด ส่วนใหญ่จะเป็นสไตล์บูติก รีสอร์ต ห้องพักสวยงามมีเอกลักษณ์โดดเด่น เพื่อ จะปรับตัวแข่งขันกับรีสอร์ตเปิดใหม่ เขมวิทย์ได้ใช้ไอเดียสร้างบ้านพัก บนต้นไม้ ภายในมีสิ่งอำนวยความสะดวกพร้อม จนกลายเป็นจุดขายที่ลูกค้าจดจำรีสอร์ต แห่งนี้ได้ดีกว่าชื่อเรียกอย่างเป็นทางการเสียอีก ภายในของบ้านรังนกละเมอ “ผมกับ เพื่อนๆ ที่เป็นผู้ประกอบการรีสอร์ตในท้องถิ่นพยายามจับกลุ่มกัน เพื่อแลกเปลี่ยนความรู้ และไปดูงานตามรีสอร์ตในแหล่งท่องเที่ยวต่างๆ เพื่อมาปรับปรุงรีสอร์ตของพวกเราให้มีคุณภาพดีขึ้น ซึ่งเดิมรีสอร์ตของผม แทบจะไม่มีจุดเด่นอะไรเลย ก็พยายามมาปรับภูมิทัศน์ และใช้อุปกรณ์ตกแต่งที่มีดีไซน์ยิ่งขึ้น ส่วนห้องพัก ผมอยากลองสร้างบ้านแปลกๆ ให้ลูกค้าได้บรรยากาศใหม่ๆ ก็กลับมาดูในพื้นที่ของเรา มีต้นไม้ใหญ่อยู่เยอะ และตอนเด็กๆ ผมก็อยากมีบ้านต้นไม้ไว้นอนเล่น เลยลองทำบ้านต้นไม้ที่คนอยู่ได้จริง มีสิ่งอำนวยความสะดวกพร้อม ทั้งแอร์ ทีวี ตู้เย็น และห้องน้ำในตัว ซึ่งก่อนทำ ผมประเมินว่า ลูกค้าที่สนใจจะเป็นวัยรุ่น แต่กลับเป็นว่า คนวัยทำงานก็ให้ความสนใจ เพราะอยากสัมผัสบรรยากาศแปลกใหม่ ได้นอนบ้านต้นไม้สักครั้งในชีวิต” เขมวิทย์ เผย และอธิบายต่อว่า บ้านต้นไม้หลังแรก ลงทุนประมาณ 1 แสนบาท เปิดตัวโดยไปออกบูทงานแฟร์ท่องเที่ยวร่วมกับเพื่อนๆ กลุ่มธุรกิจรีสอร์ตในสวนผึ้ง ปรากฏว่า บ้านต้นไม้เป็นห้องพักที่ ได้รับความสนใจจับจองสูงสุด ผลที่ตามมา ช่วยเกื้อหนุนส่วนอื่นๆ ของธุรกิจไปด้วย ทั้งลูกค้าเกิดการจดจำ และนำไปบอกต่อ รวมถึงโพสต์ในเว็บบอร์ด และสื่อมวลชนหลายแห่งสนใจนำไป เผยแพร่ ทำให้ได้ลูกค้ากลุ่มใหม่ ขณะที่ลูกค้าขาประจำก็กลับมาพักซ้ำ ร้าน "ขนมหวานสะพานกาแฟ" ร้านกาแฟประจำรีสอร์ต บ้านพักทั้งหมดของ “บัววัฒนารีสอร์ต” เขมวิทย์ออกแบบเองทั้งหมด ปัจจุบัน มี 17 หลัง เฉพาะบ้านต้นไม้ 3 หลัง รองรับลูกค้าได้รวม 80-85 คน ราคาห้องพัก อยู่ที่ 1,000-1,300 บาทต่อคืน เทียบกับรีสอร์ตในพื้นที่ใกล้ เคียง ราคาอยู่ระดับปานกลาง ไม่สูงเท่าบูติก รีสอร์ตที่โดยเฉลี่ยราว 3,000-6,000 บาทต่อคืน ขณะเดียวกันไม่ลงไปแข่งกับรีสอร์ตที่เน้นจุดขาย เรื่องราคาต่ำ "ตอนเด็กๆ ผมก็อยากมีบ้านต้นไม้ไว้นอนเล่น เลยลองทำบ้านต้นไม้ที่คนอยู่ได้จริง มีสิ่งอำนวยความสะดวกพร้อม" นอกจากบ้านต้นไม้แล้ว จุดขายของรีสอร์ตแห่งนี้ เจ้าของธุรกิจระบุว่า อยู่ใกล้บ่อน้ำแร่ “ธารน้ำร้อนบ่อคลึง” แค่ 500 เมตร นักท่องเที่ยวสามารถไปแช่น้ำร้อนได้โดยสะดวก อีกทั้ง เชื่อมเครือข่ายจัดกิจกรรมเสริมให้ผู้มาพัก เช่น พาชมสวนกล้วยไม้ ชมทะเลหมอกยามเช้า ล่องแก่ห่วงยาง ขับรถ ATV เป็นต้น บ้านต้นตอฯ ซึ่งเป็นบ้านต้นไม้หลังล่าสุด และ ที่สำคัญเหนือสิ่งอื่นใด คือ เนื่องจากตัวเขาเองเป็นคนท้องถิ่นอยู่ ใน อ.สวนผึ้งตั้งแต่เกิด ด้านบริการจะใกล้ชิดเหมือนดูแลเพื่อนมาเที่ยว บ้าน ซึ่งความผูกพันและการเอาใจใส่ดังกล่าว มักสร้างความประทับใจให้อยากกลับมาพักซ้ำ ร้านขายสินค้าที่ระลึกของรีสอร์ต อย่างไรก็ตาม เนื่องจากพนักงานทั้งหมดของรีสอร์ต จำนวน 12 คน เป็นชาวบ้านในท้องถิ่น ทั้งชาวไทยและต่างด้าว ทำให้ยังมีปัญหาด้านบริการไม่ถึงมาตรฐานที่พอ ใจ แม้จะพยายามอบรมพร่ำสอน แต่จำเป็นต้องใช้เวลาในการพัฒนาให้เกิดการ เรียนรู้แบบค่อยเป็นค่อยไป ด้านหน้าร้านกาแฟ เขมวิทย์ ระบุว่า ลูกค้า ของรีสอร์ตมีตั้งแต่กลุ่มวัยรุ่น ครอบครัว คนทำงาน และกลุ่มสัมมนา โดยวันหยุดสุดสัปดาห์ห้องพักจะเต็มตลอด แม้ว่า ผลตอบรับจะดีต่อเนื่อง ทว่า แผนในอนาคตจะเพิ่มเติมบ้านต้นไม้อีก 2-3 หลังเท่านั้น เพราะอยากทำธุรกิจแบบพอประมาณ และคำนึงถึงเวลาที่กระแสท่องเที่ยวสวน ผึ้งเริ่มซาลงไว้ด้วย ห้องน้ำภายในบ้านต้นไม้ ภายในร้านกาแฟ “ทุก วันนี้ในสวนผึ้ง มีรีสอร์ตเกือบ 100 แห่ง เกินครึ่งเป็นนักลงทุนภายนอก ผมคิดว่ากระแสฮิตสวนผึ้งอยู่ได้อีกประมาณ 5 ปี สิ่งที่กังวล คือ เมื่อกระแสท่องเที่ยวลดลง นักลงทุนที่เข้ามา ก็สามารถถอนตัวไปเปิดที่อื่นได้ แต่สำหรับผม ยังไงเสียก็ต้องอยู่ที่นี่ต่อไป ดังนั้น ผมพยายามคิดเผื่อถึงตอนที่กระแส มันตกด้วย ไม่ลงทุนเกินตัว ซึ่งผมเชื่อว่า รีสอร์ตที่มีคอนเซ็ปท์ชัดเจน มีลูกค้าประจำ และราคาเหมาะสมเท่านั้น จึงจะอยู่ได้” เขมวิทย์ ทิ้งท้าย บรรยากาศในห้อง ของบ้านต้นตอฯ ภายในร้านขายของที่ระลึก @@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@ โทร.08-5700-0575 , www.buawattanaresort.com