Google
 

08 สิงหาคม 2551

วีรกรรมของแม่..

ผมทำงานเป็นพนักงานดับเพลิงอยู่ในนครนิวยอร์ค
...บางครั้งอาชีพนี้ก็ทำให้หดหู่ใจเพราะคราใดที่ย่านธุรกิจหรือบ้านถูกไฟเผาผลาญ คุณจะพลอยหัวใจสลายไปด้วยพนักงานดับเพลิงเจอเรื่องน่าสะพรึงกลัวมานักต่อนัก และบางครั้งก็ต้องเจอความตาย
...แต่วันที่ผมเจอเจ้าแมว สการ์เล็ต เป็นอีกเรื่องหนึ่ง เพราะมันเป็น เรื่องของชีวิตและความรัก
...วันนั้นเป็นวันศุกร์
...เรารุดออกไปดับไฟตามที่ได้รับแจ้งเมื่อตอนเช้าตรู่ว่ามีไฟไหม้ปั๊มน้ำมันแห่งหนึ่งระหว่างที่เตรียมอุปกรณ์อยู่นั้น... ก็ได้ยินเสียงแมวร้องแต่ผมหยุดมือไม่ได้ ต้องดับไฟก่อนแล้วจึงจะหาแมวได้ไฟไหม้ครั้งนี้ลุกลามใหญ่โตมากเราจึงมีหน่วยงานอื่นๆมาช่วยสนับสนุนด้วย ทั้งฝ่ายตะขอเกี่ยวและบันไดเราได้รับแจ้งว่า ทุกคนในอาคารหลังนี้ออกมาได้โดยปลอดภัยแล้วผมเองก็หวังเช่นนั้นเพราะที่ปั๊ม มีแต่เปลวไฟเต็มไปหมด ใครขืนเข้าไปกู้ภัยคงจะไม่รอดแน่กว่าจะดับไฟได้ก็คงกินเวลานานมาก และต้องใช้กำลังคนมากมาย
...ถึงตอนนี้มีเวลามองหาแล้วว่าเสียงแมวมาจากไหนควันไฟยังพวยพุ่งออกมาจากตัวปั๊มเต็มไปหมดผมมองอะไรไม่ค่อยเห็น ได้แต่เดินตามเสียงแมวร้องไปเรื่อยๆ
...จนถึงบริเวณบาทวิถีห่างจากหน้าปั๊มราวๆ 5 ฟุต เห็นจะได้ก็เห็นลูกแมวตัวเล็กๆท่าทางอกสั่นขวัญแขวนสามตัวกอดกันกลมและส่งเสียงร้องกันระงมพอมองไปผมก็เจออีกสองตัว อยู่บนถนนตัวหนึ่งส่วนอีกตัวอยู่อีกฝั่งถนนหนึ่งแมวพวกนี้คงจะติดอยู่ในอาคารเป็นแน่ เพราะขนมันถูกไฟลนเสียจนโกร๋นผมตะโกนขอลังสักใบและมีนักมุงหามาให้ใบหนึ่งผมจับลูกแมวทั้งห้าตัวใส่ในลัง และอุ้มลังไปพักไว้หน้าระเบียงบ้านหลังหนึ่งแถวนั้นผมมองหาแม่แมวสังหรณ์ว่าแม่แมวคงจะเข้าไปในปั๊มที่ไฟกำลังไหม้และทยอยคาบลูกออกมาวางไว้บนบาทวิถีทีละตัวลองคิดดูก็แล้วกันว่าต้องวิ่งเข้าไปในกองไฟที่กำลังลุกโชติช่วงถึงห้าครั้งห้าคราจากนั้นก็ต้องพยายามให้ลูกแมวไปอยู่อีกฝั่งหนึ่ง ไกลอาคารออกไปทีละตัวๆเช่นกันแต่แม่แมวดูเหมือนจะยังขนลูกออกมาไม่หมด
...แล้วแม่แมวไปอยู่เสียที่ไหน??ตำรวจคนหนึ่งชี้บอกว่า เห็นแมวเข้าไปในที่ร้างตรงที่ผมเจอลูกแมวสองตัวสุดท้าย
...แม่แมวอยู่ที่นั่นจริงๆ มันนอน ร้องครวญครางด้วยความเจ็บปวดแผลไฟไหม้ดูสาหัส ตาเป็นแผลพองจนลืมไม่ขึ้นอุ้งเท้าดำเพราะถูกไฟลน ขนถูกไฟลามเสียจนเห็นหนัง บางแห่งจะเห็นเนื้อแดงเหวอะหวะตัวอ่อนปวกเปียกจนเคลื่อนไหวอะไรไม่ได้ผมเดินไปหามันช้าๆค่อยๆพูดกับมันเบาๆ มันคงจะเป็นแมวป่าผมไม่อยากให้มันตกใจ
...เมื่อผมอุ้มมันขึ้นมา แม่แมวร้องอย่างเจ็บปวดกลิ่นขนและเนื้อหนังของมันส่งกลิ่นเหม็นไหม้ มันไม่กระดุกกระดิกมันพยายามลืมตาจะมองผม แต่ลืมไม่ขึ้นดูมันเหนื่อยอ่อนเต็มประดา ได้แต่ซุกเข้าอ้อมแขนของผมผมตื้นตันน้ำตาคลอหน่วยเมื่อรู้สึกว่าแม่แมวไม่กลัวผม ไว้ใจผมผมตั้งใจว่าจะช่วยชีวิตแม่แมวผู้กล้าหาญและลูกทั้งห้าตัวของมันชีวิตของพวกมันขึ้นอยู่กับผม ผมค่อยๆวางแม่แมวลงในลังรวมกับลูกๆแม่แมวตาบอดยังอุตส่าห์ใช้จมูกแตะลูกแมวแต่ละตัวจนทั่วเพื่อให้แน่ใจว่าทุกตัวปลอดภัย มันเบาใจที่ลูกของมันอยู่ครบทุกตัวแม้ตัวมันเองจะเจ็บปวดแค่ไหนก็ตามแมวทั้งหมดต้องได้รับการเยียวยารักษาโดยด่วน...ผมนึกถึงบ้านสงเคราะห์สัตว์แห่งหนึ่งชื่อ สันนิบาตสัตว์นอร์ทชอร์ ซึ่งตั้งอยู่ที่ลองไอส์แลนด์ผมเคยนำสุนัขถูกไหม้ไฟอาการสาหัสไปให้ที่นั่นรักษาแผลเมื่อสิบเอ็ดปีก่อน องค์กรนี้ช่วยได้แน่ผมโทรศัพท์ไปแจ้งให้ทราบล่วงหน้าว่ากำลังพาแม่แมวและลูกแมวถูกไฟลวกอาการสาหัสไปให้รักษาผมไม่มีเวลาเปลี่ยนเสื้อผ้า ยังสวมชุดดับเพลิงที่มีคราบควันไฟอยู่เต็มแล้วบึ่งรถบรรทุกของผมไปโดยเร็วที่สุดเท่าที่จะทำได้เมื่อไปถึงก็เห็นสัตวแพทย์และเจ้าหน้าที่สองชุดเตรียมตัวรับแมวอยู่แล้วที่ลานจอดรถพวกเขารีบนำแมวทั้งหมดเข้าไปในห้องพยาบาลทีมหนึ่งรักษาแม่แมวอยู่บนโต๊ะตัวหนึ่งและอีกทีมหนึ่งดูแลลูกแมวอยู่อีกโต๊ะหนึ่งผมรู้สึกเหน็ดเหนื่อยเป็นกำลังจากการดับไฟ และพยายามไม่เข้าไปเกะกะในห้องพยาบาลผมไม่ค่อยหวังเท่าไหร่ว่าแมวเหล่านี้จะรอดชีวิต แต่ถึงอย่างไรก็ทิ้งมันไม่ลง
...หลังจากรออยู่ครู่ใหญ่ สัตวแพทย์ก็บอกผมว่าเขาจะต้องเฝ้าอาการแม่แมวและลูกของมันทั้งคืน แต่ไม่มั่นใจนักว่าตัวแม่จะรอดหรือเปล่า...วันรุ่งขึ้นผมกลับไปอีก รอแล้วรอเล่ากำลังจะเลิกล้มความหวังแล้วสัตวแพทย์ก็เดินเข้ามาบอกข่าวดีกับผมว่าลูกแมวรอดแล้ว แล้วแม่แมว ผมกลัวคำตอบเหลือเกินยังบอกไม่ได้ครับ ขอดูก่อนผมไปที่นั่นทุกวันเพื่อรอฟังอาการ แต่ละวันก็ได้ยินคำตอบซ้ำๆคือต้องรอดูก่อน...ประมาณหนึ่งสัปดาห์ให้หลังผมไปที่สถานสงเคราะห์สัตว์อีกครั้งด้วยความรู้สึกหดหู่ นึกในใจว่าถ้าแม่แมวไม่ตาย ป่านนี้ก็รู้แล้วล่ะจะมีอาการ่อแร่อย่างนี้ไปอีกนานเท่าไรแต่ทันที่ผมเดินเข้าไป สัตวแพทย์ก็ยิ้มรับและยกนิ้วให้สัญญาณผมว่าแม่แมวไม่เพียงแต่รอดพ้นจากขีดอันตรายเท่านั้นอีกหน่อยมันจะมองเห็นได้อีกด้วย
...เอาละ ในเมื่อแม่แมวอุตส่าห์รอดมาได้อย่างนี้
...ก็ต้องตั้งชื่อให้มันเสียหน่อยเจ้าหน้าที่คนหนึ่งตั้งชื่อว่าแม่สการ์เลตแปลว่า
..."แดงก่ำ"
...เพราะผิวที่แดงเถือกของมันผมสะท้อนใจที่ได้เห็นแม่แมวเจอหน้าลูกๆอีกครั้งเพราะรู้ดีว่ามันต้องกัดฟันต่อสู้ขนาดไหนกว่าจะรอดมาได้
...แล้วทายซิว่าสิ่งแรกที่แม่แมวทำคืออะไร??
...มันนับลูกอีกครั้ง โดยใช้จมูกแตะลูกแมวทีละตัวๆให้มั่นใจว่าลูกๆอยู่กันปลอดภัยโดยครบถ้วน มันยอมเสี่ยงภัยเพื่อลูก ไม่ใช่ครั้งเดียวแต่ถึงห้าครั้ง และได้ผลด้วย ลูกๆของมันรอดชีวิตทั้งหมด!อาชีพอย่างผมนี่มีโอกาสได้เห็นวีรกรรมกล้าหาญอยู่ทุกวันแต่ที่แม่แมวพิสูจน์ให้เห็นในวันนั้น เป็นสุดยอดวีรกรรมเป็นวีรกรรมที่มาจากความรักของแม่โดยแท้

ไม่มีความคิดเห็น: