Google
 

12 เมษายน 2553

นกสกัวหางช้อน / Pomarine Skua (Stercorarius pomarinus) / Posted by plains-wanderer

ในวันหยุดที่ตรงกับวัน จักรีที่ผ่านมานั้น ผมมีเหตุให้ต้องออกเดินทางตามประสานักดูนกอีก ครั้งเมื่อเห็นรายงานการพบนกสกัวขั้วโลกเหนือ (Arctic Skua หรือ Parasitic Jaeger) พร้อมรูปถ่ายโดย Blogger เสือจุ่น ขณะขึ้นเรือข้ามฝั่งไป-กลับระหว่างเกาะลอยและเกาะสีชัง ว่าแล้วก็ตัดสินใจเตรียมอุปกรณ์และกระโจนขึ้นรถทัวร์มุ่งหน้า อ.ศรีราชา ชลบุรี ในเช้าวันรุ่งขึ้นอย่างไม่รีรอ

น่านน้ำบ้านเราสามารถพบนกสกัว (Skua) ได้ทั้งหมด3ชนิด ซึ่งล้วนแต่เป็นชนิดที่มีขนหางคู่กลางยื่นยาวออกมา ทั้ง3ชนิดรู้จักกันในอีกชื่อหนึ่งว่า Jaeger (อ่านออกเสียงว่า "เยเกอร์") นกตระกูลนี้มีกิตติศัพท์เลื่องลือในการ เป็นนกหัวขโมย โดยมันจะบินไล่กวดนกนางนวลหรือนกนางนวลแกลบเพื่อแย่ง อาหาร พฤติกรรมนี้เรียกว่า Kleptoparasitism แต่พวกมันก็สามารถหาอาหารกินเองได้ถ้าจำเป็น นกสกัวเป็นนกนักล่าที่กินเนื้อสัตว์ทุกประเภทตั้งแต่ปลา หนู นก เศษอาหาร ยันซากสัตว์ มีรูปร่างคล้ายนกนางนวลซึ่งเป็นญาติกัน แต่ปีกยาวกว่า ปากสั้นและปลายปากงุ้มเล็กน้อย ชอบบินโฉบหาอาหารบนพื้นน้ำ และลอยตัวอยู่บนผิวน้ำในยามพักผ่อนไม่ต่างจากนกนางนวล


บางครั้งนกสกัวต่างชนิดก็รวมฝูงลอยน้ำอยู่ ใกล้ๆกันในช่วงอพยพ (นกส่วนใหญ่ในภาพเป็น
นกสกัวขั้วโลกเหนือ)

แต่นอกจากนกสกัวขั้วโลก เหนือแล้ว ผมยังได้พบกับนกสกัวหางช้อน (Pomarine Skua หรือ Pomarine Jaeger) ซึ่งมีขนาดใหญ่ที่สุดในบรรดานกสกัวที่พบได้ในบ้านเรา ทั้ง3ชนิด นกสกัวชนิดนี้มีสีเข้มที่สุด ปากหนาและยาวที่สุด รวมทั้งปีกที่กว้างและสั้นกว่านกสกัวอื่นๆ แต่เรามักเห็นพวกมันในระยะไกล การจำแนกชนิดนกสกัวอย่างแม่นยำนั้นอาจ ต้องอาศัยความชำนาญในการประเมินขนาดและสัดส่วนควบคู่ไปกับสีสันและ ลวดลายของนก

นกสกัวหางช้อนใช้เวลา ถึง4ปีจึงจะโตเต็มที่เช่นเดียวกับนกนางนวลขนาดใหญ่ มีทั้งชุดขนสีจาง (pale morph) และชุดขนสีเข้ม (dark morph) นอกจากนี้ยังมีความ หลากหลายเฉพาะตัวที่ก้ำกึงระหว่างทั้ง2ชุดขนอีกมากมาย ชุดขนสีจางเป็นชุดขนที่พบได้บ่อยที่สุดในนกสกัวทุกชนิด นกสกัวหางช้อนมีสีดำทั่วทั้งใบหน้าและกระหม่อม ปีกและหางเป็นสีน้ำตาลเข้ม ท้องและคอเป็นสีขาว ที่ด้านข้างของคอเป็นสีขาว อมเหลือง บริเวณหัวไหล่ ด้านข้างของลำตัว และก้นมีลายขวางเลอะๆเป็นสีน้ำตาล เข้ม มีสีขาวที่โคนขนปลายปีกแต่ละเส้นเรียงติดกันเป็นแถบสีขาวซึ่งเห็น ได้ชัดขณะบิน แต่ไม่ชัดเจนเท่านกสกัวขั้วโลกเหนือ นกปีแรกมีลำตัวโดยรวมสีเข้มและมีลวดลายตามตัว

นกในชุดขนฤดูผสมพันธุ์มีขน หางคู่กลางยื่นยาวออกมาเป็นรูปทรงกระสวยบิด นกตัวผู้บางตัวอาจมีลวดลายที่ด้านข้างลำตัวน้อยมาก ส่วนนกในชุดขนสีเข้มนั้นมีสีน้ำตาลอมเทาเข้มทั่วทั้งตัว นกสกัวในวัยขวบปีแรกจะยังไม่มีขนหางคู่กลางยื่นยาวออกมา นกสกัวหางช้อนวัยเด็กมีลายสีน้ำตาลสลับขาวที่ขนคลุมใต้หางเช่นเดียว กับนกสกัวหางยาว (Long-tailed Skua หรือ Long-tailed Jaeger) ซึ่งมีขนาดเล็กและหายากที่สุด แต่ลวดลายนี้จะจางมากในนกสกัวขั้วโลกเหนือ ชนิดหลังยังมีลักษณะเฉพาะตัวอีกประการที่ต่างจากนกสกัวอื่นคือมี ขนสีขาวเป็นรูปทรงคล้ายเสี้ยวพระจันทร์ที่มุมปาก

นกสกัวทั้ง3ชนิดทำรังวาง ไข่ในเขตหนาวของซีกโลกเหนือ ช่วงฤดูหนาวจะอพยพลงมาอาศัยอยู่กลางมหาสมุทร ในเขตร้อน ตามปกติมักหากินห่างไกลจากชายฝั่ง ทุกชนิดล้วนแต่เป็นนกอพยพช่วงนอกฤดูผสมพันธุ์หรือนกอพยพผ่านที่พบ น้อยจนถึงหายากในท้องทะเลบ้านเรา นักปักษีวิทยาบางส่วนเชื่อว่านกสกัว หางช้อนเป็นชนิดที่วิวัฒนาการมาจากลูกผสม (hybrid) ระหว่างนก Great Skua ซึ่งไม่พบในบ้านเราและนกสกัวขั้วโลกเหนือหรือไม่ก็นกสกัว หางยาว เนื่องจากนกสกัวหางช้อนมีรูปร่างและสีสันที่ใกล้เคียงกับ2ชนิดหลัง มาก แต่กลับมีดีเอ็นเอที่ใกล้เคียงกับ Great Skua จนแทบแยกไม่ออก

ไม่มีความคิดเห็น: