Google
 

25 พฤศจิกายน 2551

บึงฉวาก รีสอร์ท ตลาด100ปี เมืองสุพรรณ

บึงฉวาก รีสอร์ท ตลาด100ปี เมืองสุพรรณ
ถ้ามีเวลาพอก็น่าจะรวมพลไปเที่ยวก็ดี'"บึงฉวากรีสอร์ท"
บึงฉวากรีสอร์ท
บ้านต้นไม้ริมบึง
บึงฉวากรีสอร์ท อยู่ในทำเลเงียบสงบสะดวกสบาย ห้องพักหรูหราริมบึง ตกปลาได้ ครัวบึงฉวากบริการอาหาร ไทย จีน ยุโรป เปิดบริการ เวลา 07.30-20.30 น. โดยกุ๊กผู้เชี่ยวชาญการปรุงอาหารปลา มีทั้งบ้านต้นไม้ และห้องพัก ห้องประชุมสัมมนา 20-50 ท่าน ห้องจัดเลี้ยง 80-100 ท่าน
ห้องพักหรูหราริมบึง
อัตราค่าบริการ

ห้องพัก---------วันธรรมดา-----วันศุกร์-เสาร์และวันนักขัตฤกษ์ อาหารเช้า
บ้านต้นไม้-------1,300 บาท-----1,600 บาท 2 ท่านต่อห้อง
บ้านเรือนเดี่ยว---2,600 บาท-----3,200 บาท 2 ท่านต่อห้อง
บ้านเรือนแถว----800 บาท------ 1,000 บาท 2 ท่านต่อห้อง
ที่นอนเสริม ราคา 300 บาท พร้อมอาหารเช้า
ติดต่อสอบถาม สำรองที่พักได้ที่
โทร. 0-3543-0099, 0-3543-0100, 08-6997-8393 โทรสาร 0-3543-0098


บึงฉวาก รีสอร์ท ตลาด100ปี เมืองสุพรรณ
ถ้าพูดถึงเมืองสุพรรณ กับท่านบรรหาร ศิลปอาชา คนมักจะรู้จักท่านบรรหารก่อนเมืองสุพรรณ ทั้งๆ ที่เมืองสุพรรณมีดีมากมาย ไม่ว่าจะเป็นแหล่งท่องเที่ยว วัดวาอาราม
ประวัติศาสตร์ความเป็นเมืองเก่ามาแต่โบราณกาล ผสมผสานกับความเงียบสงบ และระยะทางที่ไม่ไกลจากกรุงเทพฯ เพียงแค่ชั่วโมงเศษก็สามารถเดินทางไปถึงเมืองสุพรรณได้อย่างสบายๆ
ในปัจจุบันสุพรรณเพิ่มสีสันให้ตัวเองด้วยการเปิดบึงฉวาก เป็นแหล่งท่องเที่ยวยอดฮิตให้กับคนภาคกลาง เพราะมีครบถ้วนทั้งพิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำ Under Water World แบบฉบับเล็กๆ (เพราะช่วงโลกใต้น้ำเป็นระยะทางสั้นๆ) และอุทยานผักพื้นบ้านเฉลิมพระเกียรติ ที่อลังการตื่นตาตื่นใจกับบรรดาน้ำเต้า ฟัก ลูกมหึมา ที่จัดเป็นรูปแบบอุโมงค์และซุ้ม หรือลูกบวบที่ยาวระโยงระยางเกือบจะระพื้น รวมทั้งพืชผักสมุนไพร (กินได้) เช่น ผักปลังขาว และผักปลังแดง ที่นำมาปลูกเป็นสวนประดับได้อย่างน่าทึ่ง
นอกจากนี้ บึงฉวากยังเป็นแหล่งเพาะพันธุ์จระเข้น้ำจืด และมีการแสดงระทึกขวัญระหว่างคนกับจระเข้ให้ดูชม มีสัตว์ป่า อย่างเสือไว้ให้นักท่องเที่ยวได้ทัศนาระดับใกล้ชิด ถ้าจะเปรียบเปรยแล้ว บึงฉวากจึงเปรียบเสมือนดิสนีย์แลนด์รูปแบบตะวันออกอย่างเราๆ เป็นทั้งสถานที่พักผ่อนหย่อนใจ ให้ความบันเทิงและแหล่งให้ความรู้กับเด็กๆ เยาวชนอีกด้วย ในวันที่เราไปเยือนเป็นวันหยุดเสาร์-อาทิตย์ จึงแน่นขนัดไปด้วยเด็กนักเรียน และบรรดาพ่อแม่ผู้ปกครอง ที่พาลูกหลานกันไปเยี่ยมชมบึงฉวากกันอย่างคับคั่ง
รอบบ่าย หลังจากกินข้าวกินปลากันเสร็จเรียบร้อยแล้ว เรามีโปรแกรมดูละครที่โรงละครภาคตะวันตก สุพรรณบุรี เรื่องผู้ชนะสิบทิศ ตอนสามรักสามร่าง ซึ่งรอบนี้ถือว่าพิเศษ เพราะระดมดาราใหญ่ของกรมศิลปากรมาแสดง อาทิ อาจารย์เสรี หวังในธรรม ศิลปินแห่งชาติ ปกรณ์ พรหมวิสุทธิ์ พระเอกละครชื่อดัง
ต้องขอสารภาพว่านี่เป็นครั้งแรกที่เราได้ดูการแสดงละครร้องแบบนี้ ซึ่งสนุกกว่าที่คาด เพราะเนื้อหาไม่ได้โบร่ำโบราณเป๊ะๆ แต่มีการใส่ลูกเล่นเหตุการณ์ปัจจุบันเข้าไปด้วย ทั้งเรื่องจึงมีทั้งช่วงฮา ช่วงสวยงามไพเราะจากการบรรเลงปี่พาทย์พร้อมกับร้องสดประกอบละคร และการร่ายรำของนักแสดงชาย ที่อ่อนช้อยงดงามยิ่งนัก ประกอบกับความโอ่อ่าอลังการของโรงละครแห่งนี้ จึงทำให้บรรยากาศโดยรวมของการดูละครในวันนั้นลงตัว
หลังจากนั้นเราเดินทางเข้าพักที่วังยางรีสอร์ท ซึ่งตั้งริมแม่น้ำท่าจีน ซึ่งเตรียมเปิดตัว 'ดาราสปา' ศูนย์สุขภาพแนวใหม่ยึดแนวธรรมชาติ ภายในรีสอร์ตจึงมีสวนหินเพื่อสุขภาพไว้สำหรับให้เดินเท้าเปล่า วันนั้นเราได้รับฟังการบรรยายเกี่ยวกับโปรไบโอติกจากทันตแพทย์อนุศักดิ์ คงมาลัย เจ้าของรีสอร์ตแห่งนี้ ผู้ซึ่งกำลังเผยแพร่แนวคิดการดูแลสุขภาพด้วยหลักการโปรไบโอติก ที่เห็นว่าจุลินทรีย์ที่เป็นมิตรในร่างกายของเรานั้นถือว่าเป็น 'ภูมิชีวิต' ที่สำคัญ ที่ควรได้รับการดูแล และสร้างเสริม เพื่อให้เรามีสุขภาพที่ดี
'โปรแกรมโปรไบโอติก' ซึ่งเป็นทัวร์สุขภาพของวังยางรีสอร์ตนั้น จะเปิดตัวอย่างเป็นทางการในวันที่ 26 ธันวาคม ศกนี้ ส่วนโปรแกรมที่เตรียมไว้ให้กับนักท่องเที่ยวต่างๆ นั้นมี 2 วัน
รุ่งอรุณของวันรุ่งขึ้น แผนตักบาตรพระที่พายเรือมารับบาตรริมน้ำของวังยางรีสอร์ทฯ ต้องเปลี่ยนไป เนื่องจากวันนั้นเป็นวันเฉลิมพระชนมพรรษา 5 ธันวาฯ ทางวัดเสาธงทองจึงงดออกบิณฑบาต แต่จัดงานให้ชาวบ้านมาทำบุญที่วัดแทน คุณหมอจึงพาคณะพวกเราหิ้วข้าวของที่จะทำบุญ ซึ่งทางรีสอร์ตจัดเตรียมไว้ให้นั่งเรือข้ามฟากแม่น้ำไปยังวัดแห่งนั้นแทน
เราใช้เวลาทำบุญที่วัดเพียงเล็กน้อย เพราะต้องเผื่อเวลาการรับบริการนวดตัวนวดหน้าจาก 'ดาราสปา' เราจึงเป็นลูกค้ากลุ่มแรกนำร่องทดลองใช้บริการสปาแห่งนี้ ครั้งแรกของการใช้บริการ ต้องขอบอกว่ารู้สึกดีมากๆ สบายเนื้อสบายตัว จึงคลายข้อสงสัยที่มีมานานแล้วว่า ทำไมธุรกิจสปาถึงได้อยู่ได้ แถมยังเปิดตัวกันพรึ่บพรั่บมากมาย
'ตลาด 100 ปี สามชุก' ย่านการค้าโบราณของชาวจีนที่สามชุก เป็นเป้าหมายในช่วงบ่ายของวันนั้น พออิ่มหมีพลีมันอย่างเอร็ดอร่อยกับก๋วยเตี๋ยวหมูโบราณจากร้านอาอ๋าว ร้านก๋วยเตี๋ยวชื่อดังในตลาดสามชุก ตบท้ายด้วยกาแฟโบราณเลื่องชื่อ พวกเราก็เริ่มทำความรู้จักกับตลาดสามชุก ซึ่งเป็นชุมชนเก่าแก่ จุดเด่นของตลาดแห่งนี้อยู่ที่บ้านเรือนในตลาดล้วนอยู่ในสภาพดั้งเดิมที่ทำด้วยไม้ทั้งหมด ไม่มีหลังไหนที่สร้างเป็นตึก หรือแม้กระทั่งครึ่งไม้ครึ่งตึกก็ไม่มี สภาพประมาณ 100 ปีก่อนของตลาดยังคงเหมือนเดิมหมด
โดยเฉพาะบ้านไม้สไตล์จีนของท่านขุนจำนง จีนารักษ์ ที่ยังคงสภาพแข็งแรงโอ่อ่าแม้จะมีอายุเกือบ 100 ปี

ไม่มีความคิดเห็น: