ล่องโขงสู่หลวงพระบาง ๘ ลาก่อนเมืองมรดกโลก
๑๖ เมษายน ๒๕๕๓
ถึง กำหนดเดินทางกลับกันแล้ว เราจะต้องไปถึงท่าเรือในเวลา ๖ โมงเช้า และออกเดินทางในทันที เรื่องราวตลอด ๓ วันที่ผ่านมา ถูกบันทึกภาพลงกล้องที่ถ่ายได้
เราทำ เวลาได้ดีมากเลยทีเดียว เพราะเรือออกตามกำหนด วันนี้เป็นวันแรกที่ได้เห็
ทิวทัศน์ สองฟากฝั่งโขงในยามเช้
เรือจะ ต้องจอดครับ ไม่จอดไม่ได้เนื่องจากทีมงานลืม พาสปอร์ตของทุกคนไว้ที่โรงแรม จึงต้องให้รถวิ่งเอามาให้ ก็เลยเป็นของแถมในการได้แวะเที่
ทีแรกผม ก็คิดว่าจำใจลงไปคร่
ผมเดิน ทะลุเขาไปในวัด ซึ่งมีบริเวณไม่ใหญ่มาก ตรงศาลายกพื้นหลังเล็ก ๆ มีพระกำลังสวดอยู่ ชาวบ้านถวายภัตตาหารกันเป็น “ขันโตก” เลยได้เก็บภาพ และรับศีลรับพรไปพร้อม ๆ กับเขาด้วย ถือว่าได้ทำบุญตอนเช้า อนุโมทนาถวายปัจจัยกันไปคนละนิ
เดินไป เดินมา ดูของดูวัดและทำบุญกันไป ก็มีทีมงานมากระซิบว่า เรียบร้อยแล้ว เขาเอาของมาส่งแล้ว แหม..กำลังเดินเพลินเชียว เดินผ่านต้นขนุนอายุหลายร้อยปี จึงได้ถ่ายรูปมาให้ดูกัน
กลับมา ลงเรือกันด้วยความอิ่มเอม ที่ได้จับจ่าย ได้พักผ่อน ได้แวะไหว้พระทำบุญ บนเรือมีอาหารเช้าคือข้าวต้มหมู อร่อยดีครับ บรรจุลงท้องไป ๒ ถ้วยด้วยความเพลินในรสชาด เสร็จแล้วก็กลับมาหาความบันเทิง ในการเล่าเรื่องราวพูดคุยกั
หลวงพระ บาง ได้ขึ้นทะเบียนเป็น “เมืองมรดกโลก” ซึ่งมีความโดดเด่นทางวั
คนรุ่น ใหม่ในหลวงพระบางก็เปลี่
นั่นไม่ ใช่เรื่องที่ต้องกั
“นคร น่าน” ยังไม่สามารถเตรียมพร้อมที่
การเดิน ทางทางน้
เสร็จ จากอาหารเที่ยงก็ยังมาร้
คืนนี้ พักผ่อนอีก ๑ คืนที่บ้าน แล้ววันรุ่งขึ้น ก็เดินทางกลับรังสิต ในวันที่ ๑๗ เมษายน ๒๕๕๓ อย่างปลอดภัย
ขอบคุณ ทีมงานทัวร์ในครั้งนี้ และเพื่อนร่วมเดินทาง ที่ได้มิตรภาพเพิ่มขึ้นหลายท่าน
ขอบคุณ ทุก ๆ ท่านที่ติดตามครับ
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น