| บรรยากาศภายในร้าน Spice Cafe |
| | ดูเหมือนว่าธรรมชาติจะ เกิดอาการแปรปรวนเสียเหลือเกิน เพราะว่าที่จริงแล้วช่วงนี้น่าจะ เป็นช่วงฤดูหนาว ที่น่าจะมีอากาศเย็นสบาย แต่ว่าบางวันอากาศร้อนระยับ ส่วนบางวันกลับมีฝนตกโปรยปรายเฉยเลย อย่างว่าล่ะเรื่องของธรรมชาติเป็น สิ่งที่เปลี่ยนแปลงไปได้เรื่อยๆ จะไปกะเกณฑ์คาดเดาอะไรได้ยาก ลำบาก ไม่เหมือนเรื่องกินๆ ของเรา ที่ยังไง้ยังไง "ตระเวนกิน" ก็ยังแน่วแน่ไม่ปรวนแปร ยังคงไปเสาะแสวงหาร้านอาหารอร่อยๆ มานำเสนอให้แก่มิตรรักนักกินทุกคน ได้ตามไปลองลิ้มกันอยู่เหมือนเดิม แบบไม่เปลี่ยนแปลง (แค่เปลี่ยนร้านไปเรื่อยๆ )
|
| โต๊ะนั่งด้านนอกรับลมธรรมชาติ | | | และในมื้อนี้เราก็มีร้านอาหาร ดีๆ ที่มีอาหารเลิศรสอันชวนกินมาแนะนำเหมือนเช่นเคย โดยขอพามาที่ร้าน "Spice Cafe" เป็นร้านอาหารเก๋ๆ ที่มีบรรยากาศร้านแบบหลากหลายอันชวน นั่งแบบสบายๆ ภายในร้านจัดแบบโปร่งโล่ง มีโต๊ะเก้าอี้ไม้ และมุมโซฟาให้เลือกนั่งได้ตามใจ แถมยังมีหนังสือให้หยิบอ่านได้ตามสบาย และถ้าใครชอบเล่นอินเตอร์เน็ต ก็ยังมีWi-Fi บริการฟรีด้วย ส่วนบนชั้น 2 ของร้านจัดเป็นโต๊ะนั่งรองรับแบบมาปาร์ตี้สังสรรค์กันได้ และถ้าใครชอบนั่งรับลมธรรมชาติเย็นๆ ก็มีโซนด้านหน้าร้านที่สามารถนั่งสูบ บุหรี่ได้ด้วย หรือถ้าใครเป็นคอนักดื่มเครื่องดื่มน้ำสีอำพัน ก็ยังมีโซนลานเบียร์ด้านนอกให้นั่งจิบเบียร์เย็นๆ เคล้าสายลมเย็นสบาย ที่มานั่งกันได้ตั้งแต่ 17.30-23.00 น. และยังมีวงดนตรีมาเล่นเพลง เพราะๆ สไตล์โฟคซองค์ให้ฟังในทุกค่ำคืนวันพฤหัส, ศุกร์, เสาร์ เวลา 20.00-22.00 น. เมื่อมีบรรยกาาศที่ดีที่เหมาะแก่การนั่งกินแบบ สบายอารมณ์แล้ว ก็ย่อมจะต้องมีอาหารรสดีมาให้อิ่มเอมควบคู่ไปกันด้วย ซึ่งอาหารของที่นี่เน้นขายเป็นอาหารไทยและอาหารยุโรป มีอาหารจีนบ้างนิดหน่อย สำหรับเมนูอาหารที่ชวนกินของที่นี่นั้นมีมาก มายเป็น 100 รายการได้ แต่ครั้นจะให้แนะนำหมดก็คงจะไม่ไหว เอาเป็นว่าขอเลือกนำเสนอบรรดาเมนูจานเด่นของที่นี่ ที่ลูกค้าส่วนใหญ่ติดใจในรสชาติและนิยมสั่งมากินกันก็แล้วกัน
|
| กะหล่ำปลีทอดน้ำปลา | | | เริ่มจากอาหารเมนูเด็ดจาน แรก กะหล่ำปลีทอดน้ำปลา (85 บาท) ที่ดูเหมือนว่าจะเป็นเมนูธรรมดาๆ แต่ขอบอกว่ารสชาติไม่ได้ธรรมดา อย่างหน้าตาเลย เพราะทางร้านคัดเลือกกะหล่ำปลีสีเขียวอย่างดี นำมาหมักกับเครื่องปรุง แล้วจึงนำไปหั่นแล้วลงทอด จากนั้นจึงเอามาผัดกับน้ำมันหอย ซีอิ๊วขาว ซอสปรุงรส และเครื่องปรุงต่างๆ ผัดมาแบบไม่แห้งมีน้ำนิดหน่อย ชิมแล้วโดนใจตรงที่กะหล่ำปลีมีความสด กรอบ เนื้อในหวานนุ่มชุ่มน้ำที่ผัดปรุงรสชาติมาออกเค็มๆ หวานๆ กินเปล่าๆ ก็อร่อยถูกปาก หรือกินกับข้าวสวยก็อร่อยไม่ยิ่งหย่อนกัน
|
| ส้มตำปลาดุกฟู | | | ถัดมาเป็นเมนู ส้มตำ ปลาดุกฟู (105 บาท) ที่ทางร้านนำเอาส้มตำไทย ที่ตำมาแบบครบเครื่องส้มตำไทย และตำได้รสชาติกลมกล่อมออก 3 รส เปรี้ยว หวาน เผ็ด มาให้กินคู่กับปลาดุกฟูที่ทางร้านใช้เนื้อปลาดุกฟูที่นึ่งจนสุกแล้ว เอาสับและยีผสมกับเกล็ดขนมปัง แล้วทอดแบบไฟแรงๆ ทำให้ปลาดุกฟูของที่นี่กรอบนอก นุ่มใน เคี้ยวแล้วร่วนปาก กินคู่กับส้มตำไทยเป็นอะไรที่เข้ากันดีนัก เชียว
|
| ปลากะพงนึ่งซีอิ๊ว | | | ตามมาชิมกันต่อด้วยเมนูนี้ ปลากะพงนึ่งซีอิ๊ว (250 บาท) ที่ถ้าใครชอบกินปลาขอบอกว่าเมนูนี้ไม่ควรพลาดสั่งมากินกัน เพราะทางร้านเลือกใช้ปลากะพงขาวสดๆ เอามานึ่งกับเครื่องเทศไทย แล้วก็เลาะก้างออกด้วย แล้วก็ทำน้ำซีอิ๊ว ที่เลือกใช้ซีอิ๊วอย่างดีผัดปรุงรส ชาติใส่เห็ดหอม ขิง พริกชี้ฟ้า ต้นหอม ผักชี แล้วราดมาบนตัวปลา เสิร์ฟมาแบบร้อนๆ จุดไฟด้วย กินแล้วต้องขอยกนิ้วให้ในความสดและหวานของ เนื้อปลากะพง แถมไร้ก้างกินสบาย น้ำซีอิ๊วก็หอมออกรสเค็มๆ หวานๆ ถูกปากดี
|
| ผักโขมอบชีส | | | สลับรสชาติจากอาหารไทย มาชิมอาหารยุโรปกันบ้าง ผักโขมอบชีส (125 บาท) เมนูนี้เป็นการนำเอาผักโขมสดเอาแต่ใบมาลวกให้สุก แล้วนำมาผัดกับเครื่องปรุงต่างๆ ใส่แป้งสาลี นมสด และวิปปิ้งครีมด้วย พร้อมกับใส่แฮมและเห็ดฟาง และนำมอซซาเรล่าชีสมาโรยหน้าแล้วเข้าเตาอบจน สุกเกรียม เสิร์ฟมาร้อนๆ หอมกลิ่นชีสเตะจมูก กินแล้วชีสนุ่มหนืดยืดมากๆ รสชาติผักโขมออกรสนุ่มละมุนกลมกล่อม
|
| สปาเก็ตตี้ครีมแฮมเห็ด | | | จากนั้นมากินเมนูเส้นๆ อย่าง สปาเก็ตตี้ครีมแฮมเห็ด (105 บาท) เป็นเส้นสปาเก็ตตี้นำมาผัดคลุกเคล้ากับวิปปิ้งครีม นมสด และใส่แฮมกับเห็ดฟาง ปรุงรสชาติตามสูตรเด็ดเน้นใส่พริกไทยดำ ม้วนเส้นสปาเก็ตตี้เข้าปากเส้นนุ่มเหนียว ออกรสเนียนนุ่มวิปปิ้งครีมและนม และเข้มข้นรสพริกไทยดำที่ใส่มาด้วย
|
| สเต็กพอร์กช็อป | | | แล้วจานต่อมาเป็นเมนูสเต็ก ชื่อว่า สเต็กพอร์กช็อป (195 บาท) ที่ถ้าใครชอบกินสเต็กเป็นต้องโดนใจ กับสเต็กหมูชิ้นใหญ่ ที่ทางร้านเลือกนำเอาเนื้อหมูส่วนทีโบนติดกระดูกมาหมักกับสมุนไพร ฝรั่งหลายอย่าง แล้วนำมากริลล์จนสุกได้ที่ และราดด้วยน้ำเกรวี่บราวน์ซอส เสิร์ฟพร้อมพริก 3 สี และเฟรนช์ฟราย หั่นชิ้นเนื้อสเต็กส่งเข้าปาก เคี้ยวนุ่มหนึบหนับปาก ได้รสชาติเครื่องหมักสมุนไพร และชุ่มน้ำเกรวี่ที่ออกหวานนิดๆ
|
| Choco-Banana Spring Rolls | | | แนะนำเมนูของคาวไปแล้ว จะขาดของหวานไปได้อย่างไร ที่นี่มีเมนูของหวานที่ขึ้นชื่อชวนกิน คือ Choco-Banana Spring Rolls (85 บาท) เป็นเมนูของหวานที่ทางร้านคิดขึ้นมา เอง โดยนำเอาแผ่นแป้งปอเปี๊ยะมาห่อด้วยกล้วยหอม ช็อคโกแลต และพาเมซานชีส แล้วห่อม้วนรวมกัน นำไปทอดจนเหลืองกรอบ แล้วราดด้วยน้ำผึ้ง น้ำตาลไอซ์ซิ่ง และซอสช็อคโกแลต กินแล้วแผ่นแป้งกรอบนอกแต่เนื้อในนุ่ม หอมหวานกล้วยและช็อคโกแลต และหวานหอมยิ่งขึ้นด้วยน้ำผึ้งที่ราดมา และนอกจากเมนูของคาวและของหวานที่ได้แนะนำไป แล้วนี้ ก็ยังมีเมนูจานเด่นอื่นๆ ที่น่าลองลิ้มอีกเพียบ อาทิ ปีก ไก่ทอด (95 บาท) ปอเปี๊ยะกุ้งทอด (75 บาท) ไก่ ซอสส้ม (95 บาท) ลาบเป็ด (95 บาท) เครปก ล้วยหอม (65 บาท) กล้วยหอมทอด (65 บาท) และอีกหลายหลายเมนูที่ล้วนแล้วแต่ชวนให้มาลองลิ้มแบบอิ่มสบายๆ ที่ร้าน "Spice Cafe" * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * ร้าน "Spice Cafe" (สไปซ์ คาเฟ่) ตั้งอยู่ที่ The Curve Neighborhood Center 248 ซ.อ่อนนุช17 แยก 6 แขวง/เขต สวนหลวง กทม. การเดินทางสามารถมาได้ 2 ทาง คือ อ่อนนุช เข้าทาง สุขุมวิท 77 แล้วเลี้ยวเข้า ซ.อ่อนนุช 17 โค้งแรก อยู่ในโครงการ The Curve Neighborhood Center และทางพัฒนาการ เข้าทาง พัฒนาการ 30 หรือ 20 มาออกทางลัดอ่อนนุช ลงสะพานข้าม คลองพระโขนง แล้วจะเห็นอยู่ทางโค้ง มีที่จอดรถสะดวกสบาย เปิดจันทร์-ศุกร์ 10.00-14.30 และ 17.00-23.00 น. เสาร์-อาทิตย์ 10.00-23.00 น. ถ้ามาศุกร์-อาทิตย์ ควรโทร.มาจองโต๊ะก่อนจะดี โทร. 0-2331-4344, 08-3083-0900 ทางร้านมีโปรโมชั่นถ้าทานครบ 500 บาทขึ้นไป จะได้รับของหวานฟรี 1 ที่ |
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น