Google
 

05 เมษายน 2553

กรุงเทพประกันภัย แคร์คุณทุกย่างก้าว กับ เคส FORTURNER

เนื้อความจากเมล์............

ใครที่อ่านข้อความนี้แล้วขอให้
ห่าง ไกลกับกรุงเทพประกันภัยเลยนะครับ
ผมซื้อรถ FORTURNER SPORTIVO II สีขาว ราคา 1409000 แต่งรถหมดไปอีก 4 หมื่นกว่าเมื่อปลาย
เดือนตุลาคม 52
และได้ทำประกันภัยกับกรุงเทพประกันภัย(รายละเอียดดูจาก รูป) ผ่านมาได้ไม่ถึง 3 เดือน
เมื่อวันที่ 18 มกราคม 53 ผมพาแฟนกับลูกชาย 3 ขวบเดินทางจากบ้านที่ชัยภูมิเข้ากรุงเทพ
(เส้น มิตรภาพ)ผ่านทางลงแถวโรงปูนทีพีไอก่อน
ถึงพระใหญ่ซ้ายมือ 500 เมตร ผมถูกรถพ่วง 18 ล้อเบรคแตกพุ่งชนท้ายอย่างแรง แล้วก็ลากรถผมไปอีก
ประมาณ 300 เมตร สภาพรถเป็นอย่างที่เห็นตามรูป ผมกับแฟนได้รับบาดเจ็บเล็กน้อยทั่วตัว ส่วนลูกชาย
โชคดีมากไม่เป็น อะไร
หลังจากเกิดเหตุ ผมให้แฟนกับลูกไปรอผมอยู่ที่ รพ.มวกเหล็ก ส่วนผมก็ทนเจ็บรอดำเนินการเรื่องประกัน
ให้เรียบร้อยก่อน
ประมาณ 1 ชั่วโมง พนักงานกรุงเทพประกันภัยก็มาถึง และพาผมไปโรงพักทำเรื่องบันทึกประจำวัน ,
เรื่องใบแจ้งความเสียหาย รถและเรื่อง
การลากรถเข้าอู่กลาง(เสียค่ารถลาก 4000 พนักงานบอกว่าเดี๋ยวบริษัทคืนให้) พนักงานคนนี้บอกกับ
ผมว่า สภาพรถแบบนี้น่าจะทำเรื่องขอคืนทุนประกัน
ได้ไม่ยาก อาทิตย์หน้าพี่ก็มาติดต่อทำเรื่องที่อู่กลางรังสิตได้เลย ผมก็ขอบคุณ และกลับมารับแฟนกับลูกไป
พักรักษาตัวที่บ้าน 1 สัปดาห์
พอมาถึงวัน จันทร์ที่ 25 มกราคม 53 ผมก็มาที่อู่กลางรังสิตเพื่อเข้าไปติดต่อทำ เรื่องขอคืนทุนประกันตาม
รายละเอียดในสัญญาคือประมาณ 80%
ปรากฎว่าพนักงานที่นั่นไม่ทราบ เรื่องและได้ติดต่อไปยังสำนักงานใหญ่ และทางสำนักงานใหญ่ก็ได้ติดต่อมา
ว่า ยังไม่อนุมัติ พนักงานจึงให้ผมคุยกับเจ้าหน้าที่ที่สำนักงานใหญ่ ชื่อ นาย "ชาญณรงค์" นายคนนี้แจ้งกับ
ผมว่า " รถของคุณไม่สมควรได้คืนทุนประกัน แค่ซ่อมก็พอแล้ว เพราะเขาเช็คราคาค่าซ่อมแค่ 4 แสน
กว่าบาทเอง" ผมอึ้งเลยครับ หลังจากตั้งสติได้ก็ตอบกลับไปว่า ผมออกรถมาได้ไม่ถึง 3 เดือน รถคันนี้
แทบ จะเรียกว่าเป็นรถใหม่ก็ว่าได้ คุณกลับให้ผมจำยอมใช้รถสภาพเคยซ่อม มาเกือบทั้งคันจะเป็นไปได้ไง
คัสซีก็เบี้ยวคดงอทั้ง 2 ด้าน รถ 4 ปีแต่ไม่เคยชนหนักยังน่าใช้กว่าซะ อีก ถ้าคุณซ่อมมาให้ผม ผมก็ไม่กล้า
ใช้ ผมก็ต้องขายราคามันก็ต้องถูกก ดลงไปไม่ต่ำกว่า 3 แสนถ้าเทียบกับรถที่ไม่เคยชนอยู่แล้ว มันเรื่อง
อะไร ผมผิดอะไร ที่สำคัญผมเป็นฝ่ายถูก เป็นฝ่ายถูกชน คุณไม่เห็นจะเสียประโยชน์อะไร เลย ทำไมไม่
ช่วยเหลือลูกค้าบ้าง ไอ้ชาญณรงค์ก็ตอบมาว่า "มันเป็นหน้าที่ผม ผมทำตามหน้าที่ ไม่พอใจคุณก็ฟ้องร้อง
เอา เจอมาเยอะแล้วลูกค้าที่อยากได้รถใหม่ สุดท้ายฟ้องศาลก็สั่งซ่อมอยู่ดี"และ คำพูดอื่นๆ อีกแบบที่ว่า
ถ้ามันยืนต่อหน้าผมแล้วพูดแบบนี้คงจะอดชก หน้าไม่ได้แน่ แฟนผมซึ่งนั่งฟังการสนทนาอยู่ทนไม่ไหวก็เลยขอ
คุยบ้างเธอก็บอกมันไปว่าเราออกรถมาก็เลือกที่จะทำประกันกับบริษัท ที่มีชื่อเสียง และไม่เอาเปรียบลูกค้า
ซึ่งกรุงเทพประกันภัยมีสโลแกนว่าแคร์ คุณทุกย่างก้าว โดยที่จริงแล้วเราก็ไม่ได้อยากจะใช้บริการคุณเลย
หวัง ว่าจะจ่ายเบี้ยทิ้งไปฟรีๆตลอดด้วยซ้ำ แต่คุณเข้าใจมั้ยว่าเมื่อเหตุเกิด ขึ้นโดยเราไม่ใช่คนผิดเลยเป็น
แค่คนโชคร้ายกลับต้องมาโดนบริษัทประกันที่หวังให้คุ้มครองคุณรังแก คุณอีก เค้าตอบกลับมาว่าผมเข้าใจ
ผมก็คนมีรถและรถผมก็ราคาไม่ใช่น้อย มันคนละเรื่องเลยนะ คุณเกิดเหตุต้องเจ็บตัว เสียขวัญ มันเอาคืน
ไม่ได้ แต่รถที่คุณยอมจ่ายเบี้ยประกันก่อนคุณก็ต้องหวังว่าจะได้คืนในแบบ ที่เหมาะสมกว่านี้ทำไมคุณไม่
ค้มครองเรา แล้วไปไล่เอากับฝ่ายผิด เค้าก็บอกว่าประกันคุยกันมันต้องมี หลักฐานไม่ใช่จะเรียกร้องได้
หมด หมายความว่าทางกรุงเทพประกันภัยไม่ คิดจะจ่ายเพิ่มเติมเลย
จะกินเบี้ยลูกค้าฟรีทั้งของเราและลูกค้าราย อื่นๆอีกทั่วประเทศตอนนี้ผมกำลังหาช่องทางร้องต่อ สคบ.
กรมการประกันภัย และสื่อมวลชน
มากที่สุดเท่าที่จะมากได้ ตอนนี้ก็อยากให้คนที่ได้รับเมล์นี้ช่วยส่งต่อให้กับคนที่คุณหวังดี ด้วยเถอะครับ จะได้
ไม่ตกเป็นเหยื่ออย่างผม

ไม่มีความคิดเห็น: