เลือกยกทรงให้ได้ดั่งใจด้วยเทคนิคง่ายๆ จาก
คุณอรพิมพ์ ตั้งเกียรติรุ่งเสรี Product Manager
จากชุดชั้นใน BSC
การเลือกไซส์ให้เหมาะกับขนาดหน้าอก
คุณอรพิมพ์บอกกับเราว่า โดยทั่วไป สาวๆ อาจจะคุ้นเคยกับการวัดขนาดหน้าอกด้วยหน่วยเป็นนิ้ว แต่สำหรับ BSC แล้ว จะใช้วิธีการวัดขนาดหน้าอกด้วยหน่วยเซนติเมตร ซึ่งแตกต่างจากที่อื่น เหตุผลที่ BSC เลือกใช้หน่วยเซนติเมตร เพราะให้ความละเอียดได้ดีกว่าหน่วยการวัดแบบนิ้ว และทุกครั้งที่วัดหาขนาดของยกทรง ควรถอดเสื้อชั้นในก่อนเพื่อให้ได้ขนาดแน่นอนที่ละเอียดมากขึ้น
ลักษณะเสื้อชั้นในแบบมีโครงและไม่มีโครงแตกต่างกันอย่างไร
จริงๆ แล้ว ไม่แตกต่างกันเท่าไรนัก เพราะทั้งสองแบบมีมาตราฐานของการเก็บทรงที่เหมือนกัน บางคนไม่ชอบใส่เสื้อชั้นในแบบมีโครง เพราะรู้สึกว่าเจ็บ ซึ่งตรงข้ามกับบางคนรู้สึกมั่นใจเมื่อใส่แบบมีโครง ทั้งนี้ล้วนขึ้นอยู่กับความชอบส่วนตัวมากกว่า เพราะผลลัพธ์ที่ได้จากการใส่เสื้อชั้นในทั้งสองแบบไม่แตกต่างกันเลย
วิธีใส่ยกทรงเสริมฟองน้ำให้ดูเป็นธรรมชาติคุณ
ควรเลือกยกทรงเสริมฟองน้ำเต้าเรียบหรือเสริมฟองน้ำทั้งเต้าก็ได้ ซึ่งทั้งสองแบบ เมื่อได้สัมผัส แล้ว จะให้ความรู้สึกเหมือนคุณไม่ได้เสริมฟองน้ำ แต่ถ้าคุณต้องการให้มีเนื้อเต้ามากขึ้นอีกนิดและยังคงความเป็นธรรมชาติ ก็ขอแนะนำให้เลือกใส่ยกทรงแบบที่มีฟองน้ำชิ้นเล็ก ดันอยู่ที่ฐานของชุดชั้นใน ยกทรงลักษณะจะทำให้เนื้อเนินหน้าอกมีมากขึ้น
วิธีใส่บราอย่างถูกต้อง
1 .ยืนและก้มตัวไปข้างหน้าให้ขนานกับพื้น เพื่อให้เต้าทรงอยู่ข้างหน้า
2 .คล้องสายเสื้อในและติดตะข้อ ห้ามติดตะข้อด้านหน้าแล้วใช้วิธีหมุนไปด้านหลังเพราะวิธีนี้จะทำให้ยางยืดเสื่อมคุณภาพเร็ว
3 .จากนั้นใช้มือโกยเนื้อเต้าจากข้างๆ เพื่อให้เนื้อเต้าเข้ามาอยู่ภายในยกทรงทั้งหมด โดยขั้นตอนการโกยนี้ ถือเป็นสิ่งสำคัญมาก จะให้เป็นบราแบบตะขอหน้าหรือตะขอหลังก็ควรจะต้องโกยเนื้อเต้าเก็บเข้ายกทรงให้หมด
ความแตกต่างระหว่างเสื้อชั้นในแบบตะขอหน้าและตะขอหลัง
ตะขอหน้า
ด้วยลักษณะของชุดชั้นในแล้วผู้ใส่มักจะคิดว่าการใส่ตะขอหน้าจะทำให้หน้าอกห่าง ซึ่งเป็นความเชื่อที่ผิด ทางตรงกันข้าม ตะขอหน้าจะช่วยให้หน้าอกชิดกันมากขึ้นและใส่ง่ายมากกว่าแบบตะขอหลัง
ตะขอหลัง
เสื้อชั้นในสามารถปรับระดับได้ถึงสามระดับ โดยเสื้อชั้นในตะขอหลังจะดีไซน์ให้เลื่อนได้ เพิ่มหรือลดระดับได้ตามความต้องการ ซึ่งตะขอหน้าจะปรับระดับไม่ได้
ขั้นตอนทำความสะอาดและวิธีจัดเก็บรักษาบรา
1.ต้องแยกสีของชุดชั้นในเพื่อกันไม่ให้สีตก และควรซักแยกจากเสื้อผ้าทั่วไป
2 .ผงซักฟอกที่ใช้ไม่ควรมีส่วนผสมของสารฟอกขาว ถ้าเลือกใช้เป็นผงซักฟอก ควรตีผงซักฟอกกับน้ำก่อนใส่ชุดชั้นในลงไป
3 .ไม่ต้องขยี้ แค่ใช้มือรูปบราแทน เพราะบราไม่ได้มีคราบสกปรกมากเท่ากับเสื้อภาพตัวนอก แล้วล้างน้ำเปล่าตามปกติ แต่ถ้าซักเครื่องให้ใส่ถุงซักผ้า เพื่อป้องกันการชำรุดของชุดชั้นใน ควรเลือกระดับในการซักอ่อนที่สุดและใช้ระยะเวลาในการปั่นในเครื่องซักผ้าแค่ 3- 5 นาทีเท่านั้น
4 .ควรตากเสื้อชั้นในในที่ร่มและมีลมโกรกก็พอ ไม่ควรตากในที่ที่มีแดดจัด เพราะโครงสร้างของเนื้อผ้าและยางยืดจะเสื่อมคุณภาพเร็ว ข้อสำคัญไม่ควรตากในห้องน้ำ เพราะในห้องน้ำจะอับและมีเชื้อโรคเยอะ
5.เวลาตากเสื้อชั้นในควรตากตามทรงของเสื้อชั้นใน คือใช้ไม้หนีบหนีบสายทั้งสองข้างไม่ใช่หนีบแค่ข้างเดียว เพราะน้ำจะไปกองตรงบริเวณเต้า ซึ่งอาจทำให้ยกทรงผิดทรงได้ และควรจัดทรงเสื้อชั้นในให้ได้ทรงก่อนตาก
6.ควรจัดเก็บตามทรงของเสื้อชั้นใน ไม่ควรพับครึ่ง เพราะอาจทำให้ชุดชั้นในเสียทรงได้ ถ้ารู้จักวิธีจัดเก็บอย่างดีแล้ว ก็จะสามารถยืดระยะเวลาในการใช้งานของเสื้อชั้นในตัวนั้นไปได้อีก
26 พฤศจิกายน 2551
25 พฤศจิกายน 2551
บึงฉวาก รีสอร์ท ตลาด100ปี เมืองสุพรรณ
บึงฉวาก รีสอร์ท ตลาด100ปี เมืองสุพรรณ





ห้องพัก---------วันธรรมดา-----วันศุกร์-เสาร์และวันนักขัตฤกษ์ อาหารเช้า
บ้านต้นไม้-------1,300 บาท-----1,600 บาท 2 ท่านต่อห้อง
บ้านเรือนเดี่ยว---2,600 บาท-----3,200 บาท 2 ท่านต่อห้อง
บ้านเรือนแถว----800 บาท------ 1,000 บาท 2 ท่านต่อห้อง
บ้านเรือนเดี่ยว---2,600 บาท-----3,200 บาท 2 ท่านต่อห้อง
บ้านเรือนแถว----800 บาท------ 1,000 บาท 2 ท่านต่อห้อง
ที่นอนเสริม ราคา 300 บาท พร้อมอาหารเช้า
โทร. 0-3543-0099, 0-3543-0100, 08-6997-8393 โทรสาร 0-3543-0098




ถ้าพูดถึงเมืองสุพรรณ กับท่านบรรหาร ศิลปอาชา คนมักจะรู้จักท่านบรรหารก่อนเมืองสุพรรณ ทั้งๆ ที่เมืองสุพรรณมีดีมากมาย ไม่ว่าจะเป็นแหล่งท่องเที่ยว วัดวาอาราม
ประวัติศาสตร์ความเป็นเมืองเก่ามาแต่โบราณกาล ผสมผสานกับความเงียบสงบ และระยะทางที่ไม่ไกลจากกรุงเทพฯ เพียงแค่ชั่วโมงเศษก็สามารถเดินทางไปถึงเมืองสุพรรณได้อย่างสบายๆ
ในปัจจุบันสุพรรณเพิ่มสีสันให้ตัวเองด้วยการเปิดบึงฉวาก เป็นแหล่งท่องเที่ยวยอดฮิตให้กับคนภาคกลาง เพราะมีครบถ้วนทั้งพิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำ Under Water World แบบฉบับเล็กๆ (เพราะช่วงโลกใต้น้ำเป็นระยะทางสั้นๆ) และอุทยานผักพื้นบ้านเฉลิมพระเกียรติ ที่อลังการตื่นตาตื่นใจกับบรรดาน้ำเต้า ฟัก ลูกมหึมา ที่จัดเป็นรูปแบบอุโมงค์และซุ้ม หรือลูกบวบที่ยาวระโยงระยางเกือบจะระพื้น รวมทั้งพืชผักสมุนไพร (กินได้) เช่น ผักปลังขาว และผักปลังแดง ที่นำมาปลูกเป็นสวนประดับได้อย่างน่าทึ่ง
นอกจากนี้ บึงฉวากยังเป็นแหล่งเพาะพันธุ์จระเข้น้ำจืด และมีการแสดงระทึกขวัญระหว่างคนกับจระเข้ให้ดูชม มีสัตว์ป่า อย่างเสือไว้ให้นักท่องเที่ยวได้ทัศนาระดับใกล้ชิด ถ้าจะเปรียบเปรยแล้ว บึงฉวากจึงเปรียบเสมือนดิสนีย์แลนด์รูปแบบตะวันออกอย่างเราๆ เป็นทั้งสถานที่พักผ่อนหย่อนใจ ให้ความบันเทิงและแหล่งให้ความรู้กับเด็กๆ เยาวชนอีกด้วย ในวันที่เราไปเยือนเป็นวันหยุดเสาร์-อาทิตย์ จึงแน่นขนัดไปด้วยเด็กนักเรียน และบรรดาพ่อแม่ผู้ปกครอง ที่พาลูกหลานกันไปเยี่ยมชมบึงฉวากกันอย่างคับคั่ง
รอบบ่าย หลังจากกินข้าวกินปลากันเสร็จเรียบร้อยแล้ว เรามีโปรแกรมดูละครที่โรงละครภาคตะวันตก สุพรรณบุรี เรื่องผู้ชนะสิบทิศ ตอนสามรักสามร่าง ซึ่งรอบนี้ถือว่าพิเศษ เพราะระดมดาราใหญ่ของกรมศิลปากรมาแสดง อาทิ อาจารย์เสรี หวังในธรรม ศิลปินแห่งชาติ ปกรณ์ พรหมวิสุทธิ์ พระเอกละครชื่อดัง
ต้องขอสารภาพว่านี่เป็นครั้งแรกที่เราได้ดูการแสดงละครร้องแบบนี้ ซึ่งสนุกกว่าที่คาด เพราะเนื้อหาไม่ได้โบร่ำโบราณเป๊ะๆ แต่มีการใส่ลูกเล่นเหตุการณ์ปัจจุบันเข้าไปด้วย ทั้งเรื่องจึงมีทั้งช่วงฮา ช่วงสวยงามไพเราะจากการบรรเลงปี่พาทย์พร้อมกับร้องสดประกอบละคร และการร่ายรำของนักแสดงชาย ที่อ่อนช้อยงดงามยิ่งนัก ประกอบกับความโอ่อ่าอลังการของโรงละครแห่งนี้ จึงทำให้บรรยากาศโดยรวมของการดูละครในวันนั้นลงตัว
หลังจากนั้นเราเดินทางเข้าพักที่วังยางรีสอร์ท ซึ่งตั้งริมแม่น้ำท่าจีน ซึ่งเตรียมเปิดตัว 'ดาราสปา' ศูนย์สุขภาพแนวใหม่ยึดแนวธรรมชาติ ภายในรีสอร์ตจึงมีสวนหินเพื่อสุขภาพไว้สำหรับให้เดินเท้าเปล่า วันนั้นเราได้รับฟังการบรรยายเกี่ยวกับโปรไบโอติกจากทันตแพทย์อนุศักดิ์ คงมาลัย เจ้าของรีสอร์ตแห่งนี้ ผู้ซึ่งกำลังเผยแพร่แนวคิดการดูแลสุขภาพด้วยหลักการโปรไบโอติก ที่เห็นว่าจุลินทรีย์ที่เป็นมิตรในร่างกายของเรานั้นถือว่าเป็น 'ภูมิชีวิต' ที่สำคัญ ที่ควรได้รับการดูแล และสร้างเสริม เพื่อให้เรามีสุขภาพที่ดี
'โปรแกรมโปรไบโอติก' ซึ่งเป็นทัวร์สุขภาพของวังยางรีสอร์ตนั้น จะเปิดตัวอย่างเป็นทางการในวันที่ 26 ธันวาคม ศกนี้ ส่วนโปรแกรมที่เตรียมไว้ให้กับนักท่องเที่ยวต่างๆ นั้นมี 2 วัน
รุ่งอรุณของวันรุ่งขึ้น แผนตักบาตรพระที่พายเรือมารับบาตรริมน้ำของวังยางรีสอร์ทฯ ต้องเปลี่ยนไป เนื่องจากวันนั้นเป็นวันเฉลิมพระชนมพรรษา 5 ธันวาฯ ทางวัดเสาธงทองจึงงดออกบิณฑบาต แต่จัดงานให้ชาวบ้านมาทำบุญที่วัดแทน คุณหมอจึงพาคณะพวกเราหิ้วข้าวของที่จะทำบุญ ซึ่งทางรีสอร์ตจัดเตรียมไว้ให้นั่งเรือข้ามฟากแม่น้ำไปยังวัดแห่งนั้นแทน
เราใช้เวลาทำบุญที่วัดเพียงเล็กน้อย เพราะต้องเผื่อเวลาการรับบริการนวดตัวนวดหน้าจาก 'ดาราสปา' เราจึงเป็นลูกค้ากลุ่มแรกนำร่องทดลองใช้บริการสปาแห่งนี้ ครั้งแรกของการใช้บริการ ต้องขอบอกว่ารู้สึกดีมากๆ สบายเนื้อสบายตัว จึงคลายข้อสงสัยที่มีมานานแล้วว่า ทำไมธุรกิจสปาถึงได้อยู่ได้ แถมยังเปิดตัวกันพรึ่บพรั่บมากมาย
'ตลาด 100 ปี สามชุก' ย่านการค้าโบราณของชาวจีนที่สามชุก เป็นเป้าหมายในช่วงบ่ายของวันนั้น พออิ่มหมีพลีมันอย่างเอร็ดอร่อยกับก๋วยเตี๋ยวหมูโบราณจากร้านอาอ๋าว ร้านก๋วยเตี๋ยวชื่อดังในตลาดสามชุก ตบท้ายด้วยกาแฟโบราณเลื่องชื่อ พวกเราก็เริ่มทำความรู้จักกับตลาดสามชุก ซึ่งเป็นชุมชนเก่าแก่ จุดเด่นของตลาดแห่งนี้อยู่ที่บ้านเรือนในตลาดล้วนอยู่ในสภาพดั้งเดิมที่ทำด้วยไม้ทั้งหมด ไม่มีหลังไหนที่สร้างเป็นตึก หรือแม้กระทั่งครึ่งไม้ครึ่งตึกก็ไม่มี สภาพประมาณ 100 ปีก่อนของตลาดยังคงเหมือนเดิมหมด
โดยเฉพาะบ้านไม้สไตล์จีนของท่านขุนจำนง จีนารักษ์ ที่ยังคงสภาพแข็งแรงโอ่อ่าแม้จะมีอายุเกือบ 100 ปี
11 พฤศจิกายน 2551
02 พฤศจิกายน 2551
CHEVROLET VOLT : รถไฟฟ้าคันแรกของโลกพร้อมผลิตแล้ว
CHEVROLET VOLT : รถไฟฟ้าคันแรกของโลกพร้อมผลิตแล้ว
ชาร์จง่ายเพียงเสียบปลั๊ก ชาร์จไฟหนึ่งครั้งถูกกว่ากาแฟหนึ่งแก้ว

เจนเนอรัล มอเตอร์ส คอร์ปอเรชั่น (จีเอ็ม) ก้าวสู่ศตวรรษใหม่ ด้วยการเปิดตัวรถยนต์รุ่นใหม่ เมื่อวันที่ 16 กันยายน 2551 ตามเวลาท้องถิ่น เป็นการฉลองวันครบรอบ 100 ปี จีเอ็ม ด้วย เชฟโรเลต โวลต์ รถยนต์พลังงานไฟฟ้า แบบ ปลั๊ก-อิน (Plug-in) ที่คนทั่วโลกเฝ้าติดตามการเปิดตัวอย่างยิ่งใหญ่ โวลต์สามารถขับเคลื่อนด้วยพลังงานไฟฟ้า ได้ในระยะทางมากกว่า 65 กิโลเมตร ซึ่งเป็นระยะทางเฉลี่ยที่ผู้ขับขี่รถส่วนใหญ่ใช้ในชีวิตประจำวัน โดยไม่ต้องใช้น้ำมันเชื้อเพลิง ปราศจากมลพิษอย่างสิ้นเชิง พร้อมทั้งยังสามารถใช้งานระยะทางยาวไกลขึ้นอีกหลายร้อยกิโลเมตร เมื่อใช้ควบคู่กับเครื่องกำเนิดไฟฟ้า มากกว่าการคาดการณ์ไว้เมื่อครั้งที่โวลต์ยังเป็นรถต้นแบบ
การเปิดตัว เชฟวี่ โวลต์ รุ่นที่จะผลิตเพื่อการจำหน่ายในครั้งนี้ เป็นแนวทางสำคัญในการก้าวสู่ศตวรรษที่ 2 ของจีเอ็ม' มร.ริค แวกอเนอร์ ประธานคณะกรรมการบริหาร บริษัท เจนเนอรัล มอเตอร์ส คอร์ปอเรชั่น กล่าวถึงการเปิดตัวรถยนต์พลังงานไฟฟ้ารุ่นที่จะผลิตออกจำหน่ายเป็นครั้งแรกของโลก
'โวลต์เป็นสัญลักษณ์ที่บ่งบอกอย่างชัดเจน ถึงแนวทางของจีเอ็มในอนาคต... และเป็นนวัตกรรมทางเทคโนโลยียานยนต์ของเรา ที่ต้องการเข้ามาแก้ปัญหาด้านพลังงาน และสิ่งแวดล้อมที่เผชิญอยู่ทั้งในปัจจุบันและอนาคต' มร. แวกอเนอร์ กล่าวอย่างมั่นใจ
การออกแบบ เชฟโรเลต โวลต์ ถูกถอดแบบมาจาก เชฟโรเลต โวลต์ ที่เป็นรถยนต์ต้นแบบและเคยเผยโฉมในงาน ดีทรอยท์ มอเตอร์โชว์ (NAIAS: North American International Auto Show) เมื่อปี 2550 ที่ผ่านมา
จากการออกแบบเพื่อลดแรงเสียดทานของอากาศ เป็นจุดสำคัญที่ทำให้โวลต์สามารถใช้งานได้ในระยะทางที่ไกลมากขึ้น ทีมวิศวกรผู้ออกแบบของจีเอ็ม ได้สร้างสรรค์ระบบอากาศพลศาสตร์ที่ส่งผลอันยอดเยี่ยม สำหรับโวลต์รุ่นที่ผลิตออกจำหน่ายนี้ การออกแบบในหลายๆ จุด ได้รับการคัดสรรมาจาก โวลต์คันที่เป็นรถยนต์ต้นแบบ ไม่ว่าจะเป็นส่วนของ กระจังหน้า รูปทรงที่ดูปราดเปรียวทะมัดทะแมง กราฟฟิคดีไซน์ที่ท้ายรถ กระจกมองหลัง และส่วนอื่นๆ อีกมากมาย

ด้วยการทำงานอย่างพิถีพิถันของทีมออกแบบระบบอากาศพลศาสตร์ของจีเอ็ม ในการกำหนดรูปทรงของโวลต์ จากทั้งทีมออกแบบและวิศวกร ซึ่งผลลัพธ์ที่ได้ก็คือรถยนต์ที่มีระบบอากาศพลศาสตร์ที่ยอดเยี่ยมที่สุดในประวัติศาสตร์ของจีเอ็ม ทีมออกแบบ และวิศวกรของจีเอ็ม ทุ่มเทอย่างหนักหลายร้อยชั่วโมงกับการทดสอบ เชฟโรเลต โวลต์ ภายในอุโมงค์ลมของจีเอ็ม ผ่านการทดสอบครั้งแล้วครั้งเล่า ทั้งตัวรถทั้งคันหรือชิ้นส่วนต่างๆ ทั้งการปะทะลมที่ด้านหน้าตัวรถ ด้านท้ายรถ สปอยเลอร์หลัง ส่วนโค้งของหลังคา และกระจกมองข้าง และด้วยการออกแบบทางอากาศพลศาสตร์ที่ยอดเยี่ยมนี้ ช่วยให้โวลต์สามารถวิ่งได้ในระยะทางที่มากถึงประมาณ 65 กิโลเมตรโดยไม่ต้องใช้น้ำมันเชื้อเพลิงในการสันดาป และปลอดมลพิษอย่างสิ้นเชิง ตามมาตรฐานของ อีพีเอ (EPA: Environmental Protection Agency) หน่วยงานพิทักษ์สิ่งแวดล้อมของสหรัฐอเมริกา ที่จะตรวจสอบ อัตราการสิ้นเปลืองเชื้อเพลิงและวัดค่ามลพิษที่ออกจากรถยนต์
ภายในของ เชฟโรเลต โวลต์ ยังมีความกว้างขวาง ให้ความสบายในการโดยสาร พรั่งพร้อมด้วยอุปกรณ์อำนวยความสะดวก และระบบความปลอดภัยที่สมบูรณ์แบบ ตามที่ลูกค้าคาดหวังว่าจะได้พบในรถยนต์ซีดานแบบ 4 ที่นั่ง และโวลต์ยังมีสีสันการออกแบบภายใน ให้ลูกค้าเลือกใช้อย่างหลากหลาย รวมทั้งเลือกการตกแต่งระบบไฟภายในตัวรถและสีสันในสไตล์ต่างๆ ที่มักจะไม่ค่อยได้พบเห็นทางเลือกมากมายเช่นนี้ ในรถยนต์ซีดานของเชฟโรเลต ปุ่มควบคุมอุปกรณ์ต่างๆ ภายในรถยังถูกออกแบบอย่างล้ำสมัย วัสดุต่างๆ ได้รับการออกแบบให้ดูน่าสนใจน่าจับต้อง พร้อมด้วยหน้าจอมอนิเตอร์ 2 ตัว ที่แสดงข้อมูลการขับขี่ อยู่หลังพวงมาลัย และแสดงข้อมูลของรถ ติดตั้งไว้ที่คอนโซลกลาง ซึ่งมอนิเตอร์ที่คอนโซลกลางนี้ จะเป็นส่วนแสดงข้อมูลของรถ รวมทั้งควบคุมและแสดงผลการเล่นเครื่องเสียง อุปกรณ์อำนวยความสะดวกความบันเทิงต่างๆ สั่งงานด้วยระบบสัมผัส (touch-sensitive infotainment) ด้วยการผสมผสานเทคโนโลยีและการออกแบบที่ทันสมัยได้อย่างลงตัวนี้ ช่วยยกระดับให้การออกแบบภายในของโวลต์ แตกต่างเหนือจากรถยนต์รุ่นอื่นๆ ในตลาด
ส่วนแสดงข้อมูลการขับขี่ผ่านหน้าจอแอลซีดี แทนที่จะเป็นกรอบมาตรวัดต่างๆ เหมือนรถยนต์ทั่วไป ที่คอนโซลกลางยังติดตั้งมอนิเตอร์ระบบสัมผัสขนาด 7 นิ้ว เป็นอุปกรณ์มาตรฐานในการแสดงข้อมูลต่างๆ ของโวลต์ ปรับอุณหภูมิในห้องโดยสารและควบคุมอุปกรณ์อำนวยความสะดวก ความบันเทิง ด้วยระบบสัมผัส
สามารถเพิ่มเติมการติดตั้งระบบนำทางผ่านสัญญาณดาวเทียมบนฮาร์ดไดร์ฟ (hard drive) ที่ติดตั้งซ่อนไว้ในคอนโซลกลาง โดยสามารถใส่ข้อมูลแผนที่ หรือเป็นไดร์ฟสำหรับเก็บไฟล์เพลงต่างๆ ติดตั้งบลูทูธ (Bluetooth hand free) สำหรับพูดคุยโทรศัพท์เคลื่อนที่ เป็นอุปกรณ์มาตรฐาน และยังรองรับการเชื่อมต่อ อุปกรณ์พกพาอย่าง ยูเอสบี (USB removable drive) และอุปกรณ์บลูทูธ สำหรับการโหลดเพลง เล่นเพลง ที่อยู่ในไดร์ฟพกพาเหล่านี้อีกด้วย
เชฟโรเลต โวลต์ กลายเป็นรถยนต์ที่มาพลิกโฉมหน้าประวัติศาสตร์ของพลังงานไฟฟ้าที่นำมาใช้กับรถยนต์ ด้วยการยกระดับตัวเอง ให้เป็นรถยนต์พลังงานไฟฟ้าที่สามารถใช้งานได้เป็นระยะทางไกลมากขึ้น (E-REV: Extended-Range Electric Vehicle)
โวลต์สามารถใช้พลังงานไฟฟ้าในการขับเคลื่อนล้ออยู่ตลอดเวลา และทุกย่านความเร็ว โดยสามารถใช้พลังงานไฟฟ้า จากแบตเตอรี ลิเธียม-ไอออน (lithium-ion) วิ่งได้เป็นระยะทางประมาณ 65 กิโลเมตร และเมื่อไรก็ตามที่พลังงานไฟฟ้าจากแบตเตอรีหมดลง เครื่องกำเนิดไฟฟ้าที่ใช้เชื้อเพลิง E85 จะส่งกระแสไฟไปยังระบบขับเคลื่อนของโวลต์อย่างราบรื่น ในระหว่างนั้นก็จะชาร์จไฟเข้าไปเก็บในแบตเตอรีไปพร้อมๆ กันอีกด้วย ด้วยระบบนี้จะทำให้โวลต์ สามารถใช้งานได้เป็นระยะทางมากขึ้นอีกหลายร้อยกิโลเมตร จนกว่าจะหาช่องเสียบปลั๊กไฟเพื่อชาร์จไฟเข้าไปเก็บในแบตเตอรี ลิเธียม-ไอออน อีกครั้ง เพื่อให้รถยนต์สามารถกลับมาใช้พลังงานไฟฟ้าจากแบตเตอรีได้อีก แบตเตอรี่ในโวลต์แตกต่างจากแบตเตอรี่ของรถพลังงานไฟฟ้ารุ่นอื่น ทำให้ผู้ขับขี่มั่นใจได้ว่า จะไม่พบกับปัญหาแบตเตอรี่หมดอย่างแน่นอน

สมรรถนะการขับขี่ของเชฟโรเลต โวลต์ แรงเหนือชั้นด้วยแบตเตอรี่ลิเธียม-ไอออน จำนวน 220 เซลส์ ให้พละกำลังขับเคลื่อน 150 แรงม้า แรงบิด 370 นิวตัน-เมตร ความเร็วสูงสุดทะยานไปได้ถึง 160 กิโลเมตรต่อชั่วโมง นอกจากจะให้ความเร้าใจในการขับขี่แล้ว ความเงียบของเครื่องยนต์ในการขับขี่ เป็นจุดเด่นที่สุดของโวลต์ ทำให้ห้องโดยสารมีเสียงรบกวนเล็ดลอดเข้ามาน้อยที่สุด

เชฟโรเลต โวลต์ จะขึ้นสายการผลิตที่โรงงานดีทรอยท์-แฮมแทรค (Detroit-Hamtramck) และจะออกสู่ตลาดรถยนต์ในสหรัฐอเมริกาในช่วงปลายปี 2553 โดยยังไม่มีการกำหนดราคาค่าตัวออกมา ทั้งนี้ การผลิต เชฟโรเลต โวลต์ ต้องขึ้นอยู่กับนโยบายและแนวทางของรัฐบาลด้วย
ข้อมูลเพิ่มเติมคลิกเข้าไปได้ที่ media.gm.com/volt ครับ
สมัครสมาชิก:
บทความ (Atom)
My Link
- Eat at Kata-Karon (Phuket)
- Eat at Nai-Yang (Phuket)
- Eat at Patong (Phuket)
- Eat at Phuket
- Eat at Phuket (City)
- Hotel in CHiang Mai
- Hotel in Phi Phi Island
- Hotel in Phuket
- Hotel in Samui
- Liverpool FC
- Make Big Money With Google Adsense
- Make Money With Agloco
- Make Money With Cashfiesta
- Make Money With Text-Link-Ads
- News
- Return To The Bronze Forest